วิธีการแก้ไวรัสซ่อนไฟล์: สอนทีละขั้นตอน

วิธีการแก้ไขไวรัสซ่อนไฟล์

ไวรัสซ่อนไฟล์เป็นไวรัสที่ถูกออกแบบมาเพื่อซ่อนตัวเองด้วยการใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมแอนติไวรัสสามารถตรวจหาหรือลบไวรัสได้ง่ายๆ การตรวจหาและแก้ไขไวรัสซ่อนไฟล์อาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับบางคน ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการแก้ไขไวรัสซ่อนไฟล์ในขั้นตอนที่ง่ายที่สุดเพื่อให้คุณสามารถกำจัดไวรัสได้อย่างมืออาชีพ

วิธีการใช้โปรแกรมแอนติไวรัสเพื่อสแกนและตรวจหาไวรัสที่ซ่อนไฟล์

ขั้นแรกในการแก้ไขไวรัสซ่อนไฟล์คือการใช้โปรแกรมแอนติไวรัสเพื่อสแกนและตรวจหาไวรัสที่อาจซ่อนในไฟล์ของคุณ โดยโปรแกรมแอนติไวรัสจะสแกนทุกไฟล์ที่อยู่ในระบบเพื่อตรวจหาไวรัสที่อาจก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบของคุณ

ในมืออาชีพหลายๆ โปรแกรมแอนติไวรัสที่มักจะถูกใช้กันอย่างแพร่หลายคือ Avast, AVG, Kaspersky, McAfee และ Norton อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเลือกใช้โปรแกรมแอนติไวรัสใดๆ ที่ถูกต้องตามความต้องการของคุณ

หลังจากติดตั้งโปรแกรมแอนติไวรัสไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณแล้ว คุณสามารถเปิดโปรแกรมแอนติไวรัสขึ้นมาและเริ่มสแกนได้ โดยโปรแกรมแอนติไวรัสจะอ่านไฟล์ทั้งหมดในระบบของคุณและตรวจหาเนื้อหาที่ไม่ปกติหรือเสี่ยงต่อระบบ

เมื่อโปรแกรมแอนติไวรัสสแกนไฟล์เสร็จสิ้น คุณจะได้รับรายชื่อไฟล์ที่ตรวจพบไวรัสหรือไฟล์ที่เสี่ยงต่อระบบของคุณ คุณสามารถลบหรือแก้ไขไฟล์เหล่านี้ได้ตามความเหมาะสม

การตรวจสอบและลบไฟล์ที่มีเนื้อหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบจากไวรัสซ่อนไฟล์

หากคุณได้รับแจ้งว่ามีไฟล์ที่มีเนื้อหาที่ส่งผลกระทบต่อระบบหรือใช้พื้นที่ในระบบของคุณโดยไม่มีเหตุผล คุณสามารถตรวจสอบและลบไฟล์เหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง

ในระบบปฏิบัติการ Windows คุณสามารถเรียกใช้ Windows Defender ซึ่งเป็นโปรแกรมแบบมีให้ใช้ฟรี โดยคุณสามารถค้นหาชื่อไฟล์ที่พิมพ์อยู่ในช่องค้นหาบนงานเรียกใช้งานแถบงานและเลือกไฟล์ที่ต้องการลบ แล้วคลิกขวาเพื่อเลือก “ลบ” เพื่อลบไฟล์ออกจากระบบของคุณ

วิธีการใช้เทคนิคการซ่อนไฟล์เพื่อป้องกันไม่ให้โปรแกรมแอนติไวรัสตรวจหาได้

หากคุณต้องการป้องกันไม่ให้โปรแกรมแอนติไวรัสสามารถตรวจหาไฟล์ที่ซ่อนอยู่ในระบบของคุณ คุณสามารถใช้เทคนิคการซ่อนไฟล์เพื่อป้องกันได้

หนึ่งในเทคนิคการซ่อนไฟล์ที่นิยมใช้กันคือการเปลี่ยนชื่อไฟล์หรือนามสกุลของไฟล์ เพื่อทำให้ไม่สามารถตรวจสอบไฟล์เหล่านั้นได้ง่าย

เพื่ออภิปรายละเอียดเพิ่มเติม คุณสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้:

1. เลือกไฟล์ที่คุณต้องการซ่อน คลิกขวาบนไฟล์นั้นและเลือก “Rename” เพื่อเปลี่ยนชื่อไฟล์
2. เปลี่ยนชื่อไฟล์เป็นชื่อที่ไม่สังเกตเห็นง่ายหรือใช้นามสกุลที่ไม่คาดคิด เช่น “New Text Document” หรือ “.dat”
3. เมื่อคุณเปลี่ยนชื่อไฟล์แล้ว ไฟล์จะไม่สามารถตรวจสอบได้ง่าย

วิธีการใช้เทคนิคการเข้ารหัสไฟล์เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสซ่อนไฟล์ตรวจหาได้

อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยป้องกันไวรัสซ่อนไฟล์ไม่ให้โปรแกรมแอนติไวรัสสามารถตรวจหาได้คือการใช้เทคนิคการเข้ารหัสไฟล์ เทคนิคนี้จะมีการเข้ารหัสไฟล์ที่ไม่อาจอ่านหรือตรวจหาได้จากใครอื่นๆ ยกเว้นคุณที่มีรหัสเข้ารหัสด้วย

การเข้ารหัสไฟล์สามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมที่เข้ารหัสไฟล์ส่วนใหญ่อยู่ด้วย เช่น VeraCrypt หรือ BitLocker โดยโปรแกรมเหล่านี้จะใช้รหัสที่คุณสร้างขึ้นเพื่อเข้ารหัสไฟล์ของคุณ ดังนั้นเมื่อไฟล์ถูกเข้ารหัสแล้ว โปรแกรมแอนติไวรัสจะไม่สามารถอ่านไฟล์หรือตรวจสอบได้ง่าย

วิธีการค้นหาไฟล์ที่ถูกซ่อนโดยไวรัส

หากคุณสงสัยว่ามีไฟล์ใดๆ ที่ถูกซ่อนโดยไวรัสคุณสามารถใช้คำสั่งการค้นหาของระบบปฏิบัติการเพื่อหาไฟล์เหล่านั้น

ใน Windows คุณสามารถใช้คำสั่ง “dir” เพื่อแสดงรายการของไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ปัจจุบัน โดยคำสั่งดังกล่าวจะแสดงรายการของไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ด้วย

ใน macOS หรือ Linux คุณสามารถใช้คำสั่ง “ls -a” เพื่อแสดงรายการของไฟล์ทั้งหมดในโฟลเดอร์ปัจจุบัน รวมถึงไฟล์ที่ถูกซ่อนโดยระบบ

หากคุณต้องการค้นหาไฟล์ที่ซ่อนโดยไวรัสโดยพิมพ์ชื่อของไฟล์ในคำสั่งการค้นหาเพื่อข้างต้นเพื่อค้นหาได้อย่างแน่นอน

การกู้คืนไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ตามลำดับของไวรัส

หากคุณค้นพบไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้จากไวรัส คุณสามารถใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อก

ไวรัสซ่อนไฟล์ Windows 10: ปัญหาที่คุณควรรู้และวิธีการป้องกัน

บทความฉบับนี้จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสซ่อนไฟล์ในระบบปฏิบัติการ Windows 10 ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์และองค์กรในวงกว้าง พร้อมทั้งให้ข้อมูลและวิธีการป้องกันแบบง่ายๆที่คุณสามารถทำได้เอง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ใช้ทั่วไปหรือผู้ดูแลระบบ ข้อมูลในบทความนี้มีประโยชน์แน่นอน!

1. ไวรัสซ่อนไฟล์คืออะไร?
ไวรัสซ่อนไฟล์คือโปรแกรมความเสี่ยงที่ออกแบบมาเพื่อซ่อนตัวเองอย่างลับ โดยการเปลี่ยนชื่อไฟล์และที่อยู่ในระบบไฟล์ของ Windows โดยส่วนใหญ่จะเป็นไฟล์ที่แรกเข้ามาทำงานเมื่อเริ่มต้นคอมพิวเตอร์

2. การแพร่ระบาดของไวรัสซ่อนไฟล์
ไวรัสซ่อนไฟล์สามารถแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์อื่นๆผ่านทางแบบเผยแพร่ (worms) หรือโทรศัพท์มือถือที่ติดต่อกันหนึ่งต่อหนึ่ง (Bluetooth) ไวรัสยังสามารถติดตั้งในสื่อจัดเก็บข้อมูลเช่นฮาร์ดดิสก์นั่นเอง มันยังสามารถสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้งานด้วยการลบไฟล์ที่สำคัญได้ด้วย

3. วิธีการป้องกัน
– ตรวจสอบโปรแกรมป้องกันไวรัส: อัปเดตโปรแกรมป้องกันไวรัสเป็นประจำเพื่อดูแลคอมพิวเตอร์ของคุณ และตรวจสอบว่ามีความสามารถในการตรวจสอบไวรัสที่ซ่อนตัวในไฟล์หรือไม่
– อัปเดต Windows: อัปเดต Windows 10 เป็นประจำเพื่อรับการแก้ไขและการป้องกันที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ
– อย่าเปิดแนบไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ: มัลแวร์อาจถูกซ่อนอยู่ในแนวหน้าของไฟล์ที่คุณได้รับแนบมา ดังนั้นอย่าเปิดและดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่รู้จัก
– ความระมัดระวังกับการคลิก: อย่าคลิกที่ลิงก์หรือปุ่มแป้นพิมพ์ใดๆที่ไม่รู้จัก ยกเว้นถ้าคุณทราบว่ามันมาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
– สำรองข้อมูล: สำรองไฟล์สำคัญเป็นประจำ เช่นผ่านทางคลาวด์เก็ตหรืออุปกรณ์จำหน่ายความจำภายนอก เพื่อป้องกันข้อมูลที่สำคัญไม่หายไปหายสูญ

คำถามที่พบบ่อย (FAQs):

คำถาม: ของฉันควรทำอย่างไรถ้าคอมพิวเตอร์ถูกติดไวรัสซ่อนไฟล์?
ตอบ: ถ้าคุณสงสัยว่าคอมพิวเตอร์ของคุณอาจติดมัลแวร์ซ่อนไฟล์ ควรใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสด้วยฟีเจอร์การตรวจสอบไวรัสที่ซ่อนตัวบนระบบไฟล์ เพียงแค่สแกนคอมพิวเตอร์ของคุณและลบไฟล์ที่พบว่าไม่ปลอดภัย

คำถาม: อุปกรณ์ที่ใช้ USB กับคอมพิวเตอร์ของฉันสามารถติดไวรัสซ่อนไฟล์ได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่ เมื่อคุณเสียบ USB ที่มีไฟล์ที่อาจเป็นไวรัสซ่อนตัวเข้ากับคอมพิวเตอร์ มีโอกาสที่คอมพิวเตอร์ของคุณจะติดเชื้อได้ การตรวจสอบ USB ก่อนใช้งานและใช้โปรแกรมป้องกันไวรัสช่วยเพิ่มความปลอดภัย

คำถาม: การล็อกอินเซ็ตใดๆสามารถช่วยป้องกันไวรัสซ่อนไฟล์ได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่ การล็อกอินเซ็ตช่วยลดความเสี่ยงที่จะติดเชื้อมัลแวร์ แต่หากมีแฟลชไดรฟ์หรือแผ่น DVD/CD ถูกพัฒนาขึ้นโดยมีไวรัสเข้าไปในแฟลชไดรฟ์หรือแผ่น จะสามารถเข้าถึงข้อมูลของคุณได้โดยง่าย ดังนั้นอย่าปล่อยให้อุปกรณ์เหล่านี้อยู่ไม่จดจำชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน

ย่อมา: ป้องกันเองก่อนที่จะเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากไวรัสซ่อนไฟล์ Windows 10 ไม่ใช่เรื่องยากเลย แค่ระวังการใช้งานคอมพิวเตอร์ของคุณอย่างรอบคอบ อัปเดตระบบปฏิบัติการและโปรแกรมป้องกันไวรัสอยู่เสมอ สุดท้ายนี้อย่าลืมสำรองข้อมูลสำคัญของคุณอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นได้

แก้ไวรัสซ่อนไฟล์ ถาวร: วิธีการตรวจสอบและกำจัดไวรัสที่ซ่อนไฟล์ภายในระบบคอมพิวเตอร์ของคุณ

ไวรัสซ่อนไฟล์เป็นอย่างหนึ่งในรูปแบบของไวรัสคอมพิวเตอร์ที่ใช้กลไกการปกปิดตัวเพื่อทำให้ผู้ใช้ไม่รู้ว่าไฟล์ที่ตนเองเปิดใช้งานอยู่อาจมีการส่งเสียงสัญญาณไปยังลูกของไวรัสโดยไม่ได้ตั้งใจ ตลอดเวลามันอาจสร้างสภาพที่น่าสงสัยให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ การแก้ไขปัญหานี้ทำได้โดยตรวจสอบและกำจัดไวรัสซ่อนไฟล์อย่างถาวร จงรู้จักหรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการตรวจสอบวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ฟีเจอร์ของไวรัสซ่อนไฟล์

ไวรัสซ่อนไฟล์ทำหน้าที่กำกับและการตรวจจับไฟล์ที่เปิดใช้งานอยู่บนคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยให้เจ้าของไวรัสสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยที่คุณไม่ทราบหรือแสดงให้คุณเห็นได้ว่ามีตัวไวรัสอยู่ หากคุณคิดว่าคอมพิวเตอร์ของคุณอาจประสบกับไวรัสซ่อนไฟล์ คุณควรทำการตรวจสอบเพื่อความมั่นใจ

วิธีการตรวจสอบไวรัสซ่อนไฟล์

1. อัปเดตและสแกนด้วยโปรแกรมแอนติไวรัส:
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าโปรแกรมแอนติไวรัสที่ใช้งานของคุณเป็นเวอร์ชันล่าสุดและมีฐานข้อมูลไวรัสอัปเดตอยู่ จากนั้นทำการสแกนคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของคุณเพื่อค้นหาไวรัสที่ซ่อนไฟล์

2. ตรวจสอบไฟล์และโฟลเดอร์:
ควรตรวจสอบไฟล์และโฟลเดอร์ที่สั่งให้เริ่มทำงานโดยอัตโนมัติเมื่อเปิดคอมพิวเตอร์ของคุณ หากคุณพบไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ไม่คุ้นเคยหรือที่ไม่ถูกต้อง คุณอาจจะต้องลบหรือย้ายไปยังมีความปลอดภัยอื่น ๆ

3. ใช้เครื่องมือตรวจสอบไวรัส:
มีอยู่หลายเครื่องมือที่ช่วยให้คุณตรวจสอบไฟล์ที่เรียกใช้งานในระบบได้ เครื่องมือบางด้านตรวจสอบคำสั่งเครื่องหมายย้อนกลับของไฟล์ หากคำแนะนำที่ส่งมาไม่มีผลลัพธ์ อาจจะเป็นไปได้ว่าไฟล์นั้นถูกซ่อนโดยไวรัส

4. จำกัดสิทธิ์การเข้าถึงไฟล์:
หากคุณทราบได้ว่ามีไฟล์ที่ถูกซ่อนไว้ คุณสามารถใช้คำสั่ง “กรอก” ในระดับคำสั่งของไฟล์เพื่อป้องกันจากการเข้าถึงได้โดยไม่ได้ตั้งใจ

5. สำรวจความปลอดภัยทั่วไป:
ควรทำการตรวจสอบซอฟต์แวร์ไมโครซอฟต์ Office หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่คุณใช้งานตามปกติ แนะนำให้คุณอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดเสมอ และใช้คำสั่งของซอฟต์แวร์เพื่อให้ได้รับการป้องกันจากไวรัสที่จับต้องไม่ได้

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

การซ่อนไฟล์โดยใช้ไวรัสสามารถสร้างความเสียหายกับบัญชีข้อมูลส่วนตัวของคุณ หากเจ้าของไวรัสสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ของคุณได้ อาจมีผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งอาจเสื่อมเสียหรือถูกเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ นอกจากนี้ ไวรัสซ่อนไฟล์อาจทำให้คอมพิวเตอร์ใช้งานได้ช้าลงหรือขาดส่วนของฟังก์ชันที่สำคัญ ทำให้คุณไม่สามารถเรียกใช้งานได้ หรือบางครั้งก็อาจทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณล้มเหลว

คำถามที่พบบ่อย (FAQs):

1. วิธีการรู้ไว้ก่อนถ้าไฟล์ซ่อนไวรัส?
เครื่องมือหลายอย่างที่มีอยู่สามารถช่วยคุณตรวจสอบไฟล์ที่ซ่อนไวรัสได้ อาทิเช่น Malwarebytes Anti-Malware, Avast Antivirus, หรือ Microsoft Security Essentials

2. อะไรคือเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับตรวจสอบไวรัสซ่อนไฟล์?
ไม่มีเครื่องมือแบบเดียวที่เหมาะสมกับทุกกรณี แต่คุณสามารถลองใช้ Malwarebytes Anti-Malware, Avast Antivirus, หรือ Microsoft Security Essentials เป็นต้น

3. เวลาที่ใช้ในการตรวจสอบและกำจัดไวรัสส่วนที่ซ่อนไฟล์นั้นจะยาวนานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับขนาดของคอมพิวเตอร์ของคุณ ระบบปฏิบัติการที่ใช้งาน รวมทั้งจำนวนไฟล์ที่ต้องสแกน ในบางกรณีการสแกนอาจใช้เวลานานถึงไม่กี่นาที ในกรณีอื่น ๆ การสแกนอาจใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมง

4. อะไรคือวิธีการป้องกันตัวอันดับแรกเพื่อป้องกันไม่ให้ได้รับไวรัสซ่อนไฟล์?
สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าเปิดเอกสารหรือไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ แนะนำให้คุณใช้โปรแกรมแอนติไวรัสที่มีฟีเจอร์การตรวจสอบและช่วยรับมือกับไวรัสที่ซ่อนไฟล์ได้ดี

เพียงนี้คุณจะได้รับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการตรวจสอบและกำจัดไวรัสซ่อนไฟล์สำหรับคอมพิวเตอร์ของคุณ ซาก่อนและป้องกันตัวไวรัสด้วยวิตามินอีกช่องทางหนึ่ง!

พบ 41 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ วิธี การ แก้ ไวรัส ซ่อน ไฟล์.