NỘI DUNG TÓM TẮT

สูตร Html

สูตร HTML คือชุดกฎและแนวทางในการเขียนรหัส HTML ที่ช่วยให้เว็บไซต์แสดงผลได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์ ในบทความนี้เราจะสำรวจและอธิบายเกี่ยวกับสูตร HTML ต่างๆ ที่คุณควรรู้จัก เพื่อให้คุณสามารถใช้ HTML ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ

เพื่อเริ่มต้นในการศึกษาสูตร HTML คุณควรรู้จักกับแท็กและองค์ประกอบของ HTML แท็กคือตัวกำหนดที่ช่วยให้เบราว์เซอร์เข้าใจและแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่ถูกต้อง องค์ประกอบของ HTML ประกอบด้วยแท็กเปิดและแท็กปิด เช่น `

` แท็กเปิด `
` และ ``

นอกจากนี้คุณยังต้องสำรวจเกี่ยวกับการจัดรูปแบบและการจัดหน้าโดยใช้ CSS ซึ่งเป็นภาษาสไตล์ชีทที่ช่วยปรับแต่งรูปแบบของเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนสีพื้นหลัง การจัดตำแหน่งของเนื้อหา และการเปลี่ยนรูปแบบของตัวอักษร

เมื่อคุณได้รับพื้นฐานของ HTML แล้ว คุณควรเรียนรู้เคล็ดลับและเทคนิคในการใช้งาน HTML ที่จะช่วยทำให้คุณสามารถใช้ภาษานี้ได้เป็นอย่างดี และประสบความสำเร็จในการพัฒนาเว็บไซต์ เคล็ดลับและเทคนิครวมถึงการใช้แท็กให้ถูกต้อง การจัดหน้าโครงสร้างข้อมูล การตรวจสอบรหัส HTML และอื่นๆ

หลังจากนั้นคุณควรศึกษาวิธีการใช้งานและเขียนรหัส HTML5 ซึ่งเป็นรุ่นล่าสุดของภาษา HTML ซึ่งมีฟีเจอร์และองค์ประกอบที่มากมายเพิ่มขึ้น เช่น การรองรับอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน การใช้งานและปรับแต่งแท็กใน HTML 5 และอื่นๆ

สำหรับการลิงค์และการใช้งานฟอร์มใน HTML คุณควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการใช้งานและปรับแต่งฟอร์ม เช่น การสร้างฟอร์มสำหรับผู้ใช้ป้อนข้อมูล การตรวจสอบข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อน และการสร้างลิงค์ที่เชื่อมโยงไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น ๆ

นอกจากนี้คุณควรเรียนรู้วิธีการใช้งานและตัวอักษรพิเศษใน HTML เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับเว็บไซต์ของคุณ ตัวอักษรพิเศษอาจเป็นตัวอักษรที่ไม่สามารถพิมพ์ได้โดยปกติ เช่นสัญลักษณ์ลิขสิทธิ์ ตัวอักษรตั้งแต่ ลูกศร และศูนย์กลอน

สุดท้ายคุณควรศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคในการทำเว็บไซต์เครื่องมือใน HTML เครื่องมือ HTML ช่วยให้คุณสามารถสร้างและแก้ไขเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดาย เช่นตัวอักษรสีเดียวกัน การแสดงรูปภาพ และวิดีโอ

คำสั่ง HTML ที่คุณควรรู้

1. คำสั่ง HTML ทั้งหมด:
– : กำหนดรูปแบบของเอกสาร HTML
– : แท็กหลักของเอกสาร HTML
– : แท็กส่วนหัวของเอกสาร HTML
: แท็กสำหรับกำหนดชื่อเว็บไซต์<br /> – <body data-rsssl=1>: แท็กส่วนเนื้อหาของเอกสาร HTML</p> <p>2. คำสั่ง HTML ใส่รูป:<br /> – <img>: แท็กสำหรับแสดงรูปภาพบนหน้าเว็บไซต์</p> <p>3. ตัวอย่างโค้ด HTML:<br /> “`html<br /> <!DOCTYPE html><br /> <html><br /> <head><br /> <title>หน้าหลัก

ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา

เนื้อหาของเว็บไซต์



“`

4. โค้ด HTML สำเร็จรูป:
“`html



หน้าหลัก

หัวข้อหลัก

เนื้อหาหลัก

เนื้อหาของหน้าเว็บไซต์

สิทธิ์ตามกฎหมาย © 2022



“`

5. คำสั่ง HTML เว้นวรรค:
–  : ใช้สร้างช่องว่างบนหน้าเว็บไซต์

6. คำสั่ง HTML ตาราง:

: แท็กสำหรับสร้างตาราง

: แท็กสำหรับสร้างแถวในตาราง

: แท็กสำหรับสร้างเซลล์ในตาราง

7. โค้ด HTML ตกแต่งเว็บไซต์:
“`html



หน้าหลัก


ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของเรา

เนื้อหาของเว็บไซต์



“`

สรุปแล้วการใช้สูตร HTML เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและก้าวหน้า คุณควรรู้จักและเข้าใจแท็กและองค์ประกอบของ HTML และศึกษาเกี่ยวกับการใช้งานและเขียนรหัส HTML ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการพัฒนาเว็บไซต์ของคุณ

FAQs:
1. Q: สูตร HTML คืออะไร?
A: สูตร HTML คือชุดกฎและแนวทางในการเขียนรหัส HTML ที่ช่วยให้เว็บไซต์แสดงผลได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์

2. Q: ฉันจะได้รับประโยชน์อะไรจากการศึกษาสูตร HTML?
A: การศึกษาสูตร HTML จะช่วยให้คุณสามารถใช้ HTML ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ และช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาและประสบความสำเร็จในการพัฒนาเว็บไซต์

3. Q: ฉันจะเรียนรู้สูตร HTML จากที่ไหน?
A: คุณสามารถเรียนรู้สูตร HTML จากหนังสือ เว็บไซต์ หรือคอร์สออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเว็บไซต์

4. Q: สูตร HTML สำหรับเว็บไซต์คืออะไร?
A: สูตร HTML สำหรับเว็บไซต์คือชุดกฎและแนวทางในการเขียนรหัส HTML เพื่อสร้างเว็บไซต์ที่มีคุณภาพและก้าวหน้า

5. Q: สูตร HTML สำหรับเว็บไซต์มีอะไรบ้าง?
A: สูตร HTML สำหรับเว็บไซต์ประกอบด้วยแท็กและองค์ปร

มาเรียนเขียนเว็บด้วย Html 5 !! ฉบับที่เร็วที่สุด !

คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: สูตร html คํา สั่ง HTML ทั้งหมด, คําสั่ง html ใส่รูป, ตัวอย่างโค้ด html, โค้ด html สําเร็จรูป, โค้ด HTML, คําสั่ง html เว้นวรรค, คําสั่ง html ตาราง, โค้ด html ตกแต่งเว็บไซต์

รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ สูตร html

มาเรียนเขียนเว็บด้วย HTML 5 !! ฉบับที่เร็วที่สุด !
มาเรียนเขียนเว็บด้วย HTML 5 !! ฉบับที่เร็วที่สุด !

หมวดหมู่: Top 21 สูตร Html

ดูเพิ่มเติมที่นี่: themtraicay.com

คํา สั่ง Html ทั้งหมด

คำสั่ง HTML ทั้งหมด: คู่มืออธิบายพื้นฐานและฟังก์ชันการใช้งาน

HTML (HyperText Markup Language) เป็นภาษาที่ใช้สร้างและแสดงเนื้อหาของเว็บไซต์บนเว็บเบราว์เซอร์ คำสั่ง HTML ทั้งหมดคือชุดคำสั่งเหล่านี้ที่ใช้ในการสร้างโครงสร้างของหน้าเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บบราวเซอร์เข้าใจและแสดงผลให้ผู้ใช้เห็นได้อย่างถูกต้องตามที่ออกแบบไว้ ในบทความนี้เราจะศึกษาคำสั่ง HTML ที่ใช้บ่อย อธิบายลักษณะและฟังก์ชันของแต่ละคำสั่ง เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งาน HTML ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คำสั่ง HTML ที่พบบ่อย

1. – คำสั่งบอกประเภทของเว็บไซต์ (เช่น HTML5)
2. – ความเริ่มต้นและสิ้นสุดของหน้า HTML
3. – ส่วนหัวของหน้า HTML ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลเมตาทากของหน้าเว็บไซต์ (เช่น title, meta tags)
4. – ส่วนสำคัญที่สุดของหน้า HTML ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาหลักของเว็บไซต์ เช่นข้อความ, รูปภาพ, ลิ้งค์
5.

to

– คำสั่งใช้สำหรับสร้างหัวเรื่องโดยมีความสำคัญลำดับตามตัวเลข (1 คือหัวเรื่องสำคัญที่สุด)
6.

– คำสั่งสร้างย่อหน้าข้อความ
7. – คำสั่งสร้างลิ้งค์ไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น หรือไฟล์อื่น (เช่นรูปภาพ, เอกสาร PDF)
8. – คำสั่งใช้แทรกรูปภาพ
9.

    ,

      – คำสั่งใช้สร้างรายการ unordered (ไม่มีลำดับ) และ ordered (มีลำดับ)
      10.

    1. – คำสั่งสร้างรายการใน unordered หรือ ordered list
      11.

      – คำสั่งสร้างตาราง
      12.

      – คำสั่งสร้างแถวในตาราง
      13.

      – คำสั่งสร้างเซลล์ในแถวของตาราง
      14.

      – คำสั่งสร้างฟอร์มสำหรับรับข้อมูลจากผู้ใช้
      15. – คำสั่งใช้สร้างช่องใส่ข้อความหรือปุ่มสำหรับส่งข้อมูลฟอร์ม

      อธิบายลักษณะและฟังก์ชันของคำสั่ง HTML

      1.
      เป็นคำสั่งที่แสดงประเภทของเว็บไซต์เพื่อให้เว็บบราวเซอร์เข้าใจและแสดงผลเว็บไซต์ได้อย่างถูกต้อง ตัวอย่างเช่น แสดงว่าจะใช้รูปแบบ HTML5 เป็นก่อน
      2.
      เป็นคำสั่งที่กำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของหน้าเว็บไซต์ ทุกคำสั่งในหน้าเว็บไซต์จะอยู่ภายใน และ
      3.
      เป็นคำสั่งที่บอกให้เว็บบราวเซอร์รู้ว่าจะนำเนื้อหาในส่วนนี้ไปใช้ในการแสดงผลหรือประมวลผลเว็บไซต์ ส่วนได้รับความนิยมของ คือการใช้ เพื่อกำหนดหัวข้อหรือชื่อเว็บไซต์ที่จะแสดงบนแท็บเว็บบราวเซอร์<br /> 4. <body data-rsssl=1><br /> <body data-rsssl=1> เป็นคำสั่งที่กำหนดเนื้อหาหลักของหน้าเว็บไซต์ เช่น ข้อความ, รูปภาพ, ลิ้งค์ ทุกอย่างที่แสดงในหน้าเว็บไซต์จะอยู่ภายใน <body data-rsssl=1> และ </body><br /> 5. </p> <h1><span id="to__8211_1_6__8211_7_8211___PDF_8_8211_9___8211_unordered__ordered_10__8211_unordered_ordered_list_11__8211_12__8211_13__8211_14__8211_15_8211__HTML_1____HTML5_2____3_____4______5__to__to__heading______6___7____8___URL_9______unordered__ordered___bullet_point_______unordered_ordered_list_10_______table_______11_______1_HTML__HTML_1-6__2__HTML____3__CSS_Cascading_Style_Sheets____CSS_HTML_4_HTML__HTML__Google_Chrome_Firefox_Microsoft_Edge_Safari___5_HTML__HTML__HTML__Html__HTML_HTML___HTML__HTML_1___HTML_8220html_8220_8211_src__8211_alt__8211_width__px__8211_height__px___8220html_8220_2______8220html___8220_8220html___8220____1____8220html_8220_2____8220html_8220_images_HTML_3__width_height__8220html_8220_250px_250px_4____8220html___8220__8211_5_____8220html____8220___8211_6_1___1___8220html__8220__HTML__HTML_Html_HTML_HTML_HyperText_Markup_Language__HTML__HTML__HTML__HTML_tag___HTML__8220html"> to </p> <h6> <h1><span id="to__8211_1_6__8211_7_8211___PDF_8_8211_9___8211_unordered__ordered_10__8211_unordered_ordered_list_11__8211_12__8211_13__8211_14__8211_15_8211__HTML_1____HTML5_2____3_____4______5__to__to__heading______6___7____8___URL_9______unordered__ordered___bullet_point_______unordered_ordered_list_10_______table_______11_______1_HTML__HTML_1-6__2__HTML____3__CSS_Cascading_Style_Sheets____CSS_HTML_4_HTML__HTML__Google_Chrome_Firefox_Microsoft_Edge_Safari___5_HTML__HTML__HTML__Html__HTML_HTML___HTML__HTML_1___HTML_8220html_8220_8211_src__8211_alt__8211_width__px__8211_height__px___8220html_8220_2______8220html___8220_8220html___8220____1____8220html_8220_2____8220html_8220_images_HTML_3__width_height__8220html_8220_250px_250px_4____8220html___8220__8211_5_____8220html____8220___8211_6_1___1___8220html__8220__HTML__HTML_Html_HTML_HTML_HyperText_Markup_Language__HTML__HTML__HTML__HTML_tag___HTML__8220html"> to </p> <h6> เป็นคำสั่งสร้างหัวเรื่อง (heading) ในหน้าเว็บไซต์ โดยสัญลักษณ์ </p> <h1><span id="to__8211_1_6__8211_7_8211___PDF_8_8211_9___8211_unordered__ordered_10__8211_unordered_ordered_list_11__8211_12__8211_13__8211_14__8211_15_8211__HTML_1____HTML5_2____3_____4______5__to__to__heading______6___7____8___URL_9______unordered__ordered___bullet_point_______unordered_ordered_list_10_______table_______11_______1_HTML__HTML_1-6__2__HTML____3__CSS_Cascading_Style_Sheets____CSS_HTML_4_HTML__HTML__Google_Chrome_Firefox_Microsoft_Edge_Safari___5_HTML__HTML__HTML__Html__HTML_HTML___HTML__HTML_1___HTML_8220html_8220_8211_src__8211_alt__8211_width__px__8211_height__px___8220html_8220_2______8220html___8220_8220html___8220____1____8220html_8220_2____8220html_8220_images_HTML_3__width_height__8220html_8220_250px_250px_4____8220html___8220__8211_5_____8220html____8220___8211_6_1___1___8220html__8220__HTML__HTML_Html_HTML_HTML_HyperText_Markup_Language__HTML__HTML__HTML__HTML_tag___HTML__8220html"> จะเป็นหัวเรื่องหลัก (หัวเรื่องที่สำคัญที่สุด) และ </p> <h6> เป็นหัวเรื่องรอง (หัวเรื่องที่สำคัญน้อยที่สุด)<br /> 6. </p> <p><p> เป็นคำสั่งสร้างย่อหน้าข้อความ ควรใช้สำหรับแบ่งแยกข้อความให้เป็นพารากราฟ ด้วยการจัดเรียงและความสวยงามของหน้าเว็บไซต์<br /> 7. <a><br /> <a> เป็นคำสั่งสร้างลิ้งค์ไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น หรือไฟล์อื่น เมื่อผู้ใช้คลิกที่ลิ้งค์นี้ เว็บบราวเซอร์จะแสดงหน้าเว็บไซต์ใหม่หรือไฟล์ที่ต้องการ<br /> 8. <img><br /> <img> เป็นคำสั่งใช้แทรกรูปภาพลงในหน้าเว็บไซต์ โดยใช้ URL ของรูปภาพเพื่อแสดงผลให้กับผู้ที่เข้าชมหน้าเว็บไซต์<br /> 9. </p> <ul>, </p> <ol>, </p> <li> <ul>, </p> <ol> เป็นคำสั่งใช้สร้างรายการ unordered (ไม่มีลำดับ) และ ordered (มีลำดับ) โดย </p> <ul> ใช้สำหรับรายการทำสัญลักษณ์ด้วยสัญลักษณ์ไม่มีลำดับ (bullet point) เช่น รายการที่ไม่มีลำดับของข้อมูล ส่วน </p> <ol> ใช้สำหรับรายการทำจุดลำดับด้วยตัวเลข เช่น รายการที่มีลำดับย่อย คำสั่ง </p> <li> ใช้สร้างรายการผู้ประพันธ์ใน unordered หรือ ordered list<br /> 10. </p> <table>, </p> <tr>, </p> <td> <table>, </p> <tr>, </p> <td> เป็นคำสั่งใช้สร้างตาราง (table) ในหน้าเว็บไซต์ โดย </p> <table> จะเป็นคำสั่งเริ่มต้นของตาราง ส่วน </p> <tr> ใช้สร้างแถวในตาราง และ </p> <td> เป็นคำสั่งสร้างเซลล์ในแถวของตาราง<br /> 11. </p> <form>, <input></p> <form> เป็นคำสั่งสร้างฟอร์มสำหรับรับข้อมูลจากผู้ใช้ เช่น ฟอร์มการสั่งซื้อสินค้า, การสมัครสมาชิก เป็นต้น ส่วน <input> เป็นคำสั่งใช้สร้างช่องใส่ข้อความหรือปุ่มสำหรับส่งข้อมูลฟอร์ม</p> <p>คำถามที่พบบ่อย</p> <p>1. การใช้คำสั่ง HTML ต้องมีความละเอียดอะไรบ้าง?<br /> ในการใช้คำสั่ง HTML ควรใส่ตัวเลข 1-6 เพื่อระบุความสำคัญของหัวเรื่อง ใช้โค้ดให้ถูกต้องและมีความสวยงามในการจัดรูปแบบข้อความและผู้ใช้ควรใส่คำอธิบายในแท็กต่างๆ เพื่อให้เมนูในเว็บบราวเซอร์เกิดประโยชน์</p> <p>2. หากหน้าเว็บไซต์ของฉันไม่แสดงผลอย่างถูกต้อง มีวิธีการแก้ไขอย่างไร?<br /> สาเหตุที่เว็บไซต์ไม่แสดงผลอย่างถูกต้องอาจมาจากการใส่โค้ด HTML ไม่ถูกต้อง คุณควรตรวจสอบตัวอักษรที่กำหนดไว้ในแท็กต่างๆ เช่นครบรูปแบบทุกด้าน หรือปิดแท็กที่เปิดไว้ (</tag>) ให้ถูกต้องเพื่อให้เว็บบราวเซอร์ประมวลผลได้อย่างถูกต้อง</p> <p>3. หากต้องการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้น คำสั่งไหนที่ควรใช้?<br /> คุณสามารถใช้ CSS (Cascading Style Sheets) เพื่อปรับแต่งรูปแบบในเว็บไซต์ เช่น การเปลี่ยนสีพื้นหลัง, การเปลี่ยนฟอนต์ การจัดวางและอื่นๆ ใช้คำสั่ง CSS ร่วมกับตัวอักษร HTML เพื่อจัดรูปแบบเว็บไซต์ให้มีความสวยงามและสอดคล้องกับแบรนด์</p> <p>4. คำสั่ง HTML สามารถทำงานได้บนเว็บเบราว์เซอร์ใดบ้าง?<br /> คำสั่ง HTML สามารถทำงานบนเว็บเบราว์เซอร์หลายรุ่น เช่น Google Chrome, Firefox, Microsoft Edge, Safari เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การที่เว็บไซต์ดูและทำงานได้อย่างถูกต้องบนเว็บเบราว์เซอร์ต่างๆ จำเป็นต้องทดสอบและปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับแต่ละเบราว์เซอร์</p> <p>5. การใช้งาน HTML ต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโค้ดหรือเว็บไซต์หรือไม่?<br /> ในการใช้งาน HTML คุณควรมีความคุ้นเคยเกี่ยวกับโค้ดพื้นฐาน เช่น คำสั่งพื้นฐานของ HTML, จังหวัดสร้างหน้าเว็บไซต์ และสร้างลิ้งค์ไปย</p></div> <h2>คําสั่ง Html ใส่รูป</h2> <div>คำสั่ง HTML ใส่รูป</p> <p>HTML (ภาษาเครื่องมือสำหรับสร้างเว็บไซต์) เป็นภาษามาตรฐานที่ใช้ในการสร้างและแสดงผลเว็บไซต์บนอินเตอร์เน็ต การใส่รูปสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้คำสั่ง HTML ที่ให้รองรับการแสดงผลรูปภาพ ในบทความนี้เราจะแนะนำคำสั่งที่ใช้ในการใส่รูปภาพใน HTML รวมถึงตัวอย่างการใช้งานที่ต่างๆ</p> <p>1. แท็ก <img></p> <p>แท็ก <img> เป็นแท็กหลักที่ใช้ในการแสดงรูปภาพใน HTML โดยมีรูปแบบดังนี้:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" loading="lazy" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%200%200%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="path/to/image.jpg" alt="ชื่อรูปภาพ" width="ความกว้าง" height="ความสูง"><br /> “`</p> <p>– `src` เป็นคำสั่งที่ใช้ระบุที่อยู่ของไฟล์รูปภาพ โดยสามารถระบุที่อยู่บนเว็บไซต์หรือที่อยู่บนระบบไฟล์ของเครื่องใช้งาน<br /> – `alt` เป็นข้อความที่ใช้แสดงเมื่อรูปภาพไม่สามารถแสดงผลได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการเพิ่มความเข้าใจสำหรับผู้ใช้ที่มีความผิดพลาด<br /> – `width` เป็นความกว้างของรูปภาพที่ต้องการแสดงผล (สามารถใช้หน่วย px, % หรืออื่นๆ ได้)<br /> – `height` เป็นความสูงของรูปภาพที่ต้องการแสดงผล (สามารถใช้หน่วย px, % หรืออื่นๆ ได้)</p> <p>ตัวอย่างการใช้งาน:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" loading="lazy" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20250%20250%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงตัวอย่าง" width="250" height="250"><br /> “`</p> <p>2. แท็ก </p> <figure> และ<figcaption> <p>แท็ก </p> <figure> และ<figcaption> เป็นคู่กันที่ใช้ร่วมกันในการแสดงรูปภาพพร้อมคำอธิบาย โดยมีรูปแบบดังนี้:</p> <p>“`html</p> <figure> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="path/to/image.jpg" alt="ชื่อรูปภาพ"><figcaption>คำอธิบายรูปภาพ</figcaption></figure> <p>“`</p> <p>ตัวอย่างการใช้งาน:</p> <p>“`html</p> <figure> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงตัวอย่าง"><figcaption>นี่คือรูปภาพที่แสดงตัวอย่าง</figcaption></figure> <p>“`</p> <p>การใช้งาน </p> <figure> และ<figcaption> จะช่วยเพิ่มความละเอียดและความชัดเจนในการแสดงรูปภาพและคำอธิบาย</p> <p>คำถามที่พบบ่อย</p> <p>คำถามที่ 1: สามารถเรียกใช้รูปภาพจากที่อยู่ในเครื่องใช้งานได้อย่างไร?</p> <p>คำตอบ: เราสามารถเรียกใช้รูปภาพจากที่อยู่ในเครื่องใช้งานได้โดยใช้ที่อยู่ไฟล์ของรูปภาพในคำสั่ง <img> แล้วเรียกใช้ไฟล์รูปภาพโดยใช้ระบบไฟล์ของเครื่องใช้งาน เช่น:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="C:\สำหรับผู้ใช้\Desktop\image.jpg" alt="รูปภาพจากเครื่องใช้งาน"><br /> “`</p> <p>คำถามที่ 2: การใส่รูปภาพที่อยู่บนเว็บไซต์เข้าไปในหน้าเว็บไซต์ที่กำลังจะสร้างควรทำอย่างไร?</p> <p>คำตอบ: สามารถตั้งค่าที่อยู่ของรูปภาพในคำสั่ง <img> เพื่อให้แสดงผลได้อย่างถูกต้อง เช่น:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="images/image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงแบบอัตโนมัติ"><br /> “`</p> <p>ในที่นี้คำสั่งกำหนดให้รูปภาพที่แสดงอยู่ในโฟลเดอร์ images ที่อยู่ในโฟลเดอร์เดียวกับไฟล์ HTML</p> <p>คำถามที่ 3: การกำหนดความกว้างและความสูงของรูปภาพที่แสดงนั้นสามารถทำได้อย่างไร?</p> <p>คำตอบ: ความกว้างและความสูงของรูปภาพสามารถกำหนดได้โดยใช้คำสั่ง width และ height ในแท็ก <img> เช่น:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" loading="lazy" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20250%20250%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงตัวอย่าง" width="250" height="250"><br /> “`</p> <p>ในตัวอย่างนี้รูปภาพจะแสดงในขนาดกว้าง 250px และสูง 250px</p> <p>คำถามที่ 4: เราสามารถเพิ่มคำอธิบายให้กับรูปภาพได้อย่างไร?</p> <p>คำตอบ: เราสามารถเพิ่มคำอธิบายให้กับรูปภาพโดยใช้แท็ก<figcaption> ในคู่กับแท็ก </p> <figure> เช่น:</p> <p>“`html</p> <figure> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงตัวอย่าง"><figcaption>นี่คือรูปภาพที่แสดงตัวอย่าง</figcaption></figure> <p>“`</p> <p>แท็ก<figcaption> จะแสดงคำอธิบายที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพ –></p> <p>คำถามที่ 5: เราสามารถใส่เนื้อหาระหว่างรูปภาพได้อย่างไร?</p> <p>คำตอบ: เราสามารถใส่เนื้อหาระหว่างรูปภาพได้โดยใช้แท็ก </p> <div> หรือ <span> แล้วกำหนดลักษณะในการแสดงผลให้เหมาะสม เช่น:</p> <p>“`html</p> <figure> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image.jpg" alt="รูปภาพที่แสดงตัวอย่าง"></p> <div>นี่คือเนื้อหาที่แสดงเมื่อต้องการ</div> </figure> <p>“`</p> <p>ในตัวอย่างนี้เราใช้แท็ก </p> <div> เพื่อแต่งเนื้อหา –></p> <p>คำถามที่ 6: ต้องการแสดงรูปภาพมากกว่า 1 รูปภาพในหน้าเว็บไซต์ เราควรทำอย่างไร?</p> <p>คำตอบ: เราสามารถใส่รูปภาพมากกว่า 1 รูปภาพในหน้าเว็บไซต์ได้โดยใช้หลายคำสั่ง <img> โดยกำหนดค่าให้แตกต่างกันตามที่ต้องการ เช่น:</p> <p>“`html<br /> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image1.jpg" alt="รูปภาพที่ 1"><br /> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image2.jpg" alt="รูปภาพที่ 2"><br /> <img class="lazy-load" src="data:image/svg+xml,%3Csvg%20viewBox%3D%220%200%20100%20100%22%20xmlns%3D%22http%3A%2F%2Fwww.w3.org%2F2000%2Fsvg%22%3E%3C%2Fsvg%3E" data-src="image3.jpg" alt="รูปภาพที่ 3"><br /> “`</p> <p>โดยรูปภาพที่แสดงจะเป็นรูปภาพตามลำดับการกำหนดคำสั่ง</p> <p>โดยสรุป, ในบทความนี้เราได้แนะนำคำสั่งที่ใช้ในการใส่รูปภาพใน HTML รวมถึงและแสดงตัวอย่างการใช้งานที่ต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคำถามที่พบบ่อยและคำตอบสำหรับคำถามเหล่านั้นเพื่อเพิ่มความเข้าใจและความถูกต้องในการใส่รูปภาพใน HTML</p></div> <h2>ตัวอย่างโค้ด Html</h2> <div>ตัวอย่างโค้ด HTML: พื้นฐานและการใช้งานในการพัฒนาเว็บไซต์</p> <p>HTML (HyperText Markup Language) เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการสร้างและเรียกดูเว็บไซต์ ทุกครั้งที่คุณเปิดเว็บไซต์ที่อ่านข้อมูลหรือเล่นเกมออนไลน์ คุณกำลังใช้ HTML โดยตรงหรือโดยอ้อม</p> <p>ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปที่รากฐานของ HTML กับตัวอย่างโค้ดที่ใช้ในการสร้างหน้าเว็บไซต์สำเร็จรูป</p> <p>โค้ด HTML ขั้นพื้นฐาน</p> <p>ใน HTML เราจะใช้แท็ก (tag) เพื่อระบุส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บไซต์ เริ่มต้นด้วยแท็ก `<html>` ซึ่งถูกใช้เพื่อระบุว่าเรากำลังใช้ภาษา HTML เพื่อสร้างหน้าเว็บไซต์ ในตัวอย่างนี้ เราจะเริ่มต้นด้วยโค้ดนี้:</p> <p>“`html<br /> <!DOCTYPE html><br /> <html><br /> <head><br /> <title>หัวข้อเว็บไซต์ของคุณ

      ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ของฉัน!

      นี่คือตัวอย่างข้อความ



      “`

      ในตัวอย่างนี้ เรามีแท็ก `` ซึ่งครอบจักรวาลทั้งหมดของเว็บไซต์ เรามีแท็ก `` ซึ่งรวมเอาท์ตัวแปรและการกำหนดเลขหน้าเว็บไซต์ แท็ก `` จะกำหนดหัวข้อของเว็บไซต์ที่จะปรากฏบนแท็บเว็บไซต์ของคุณ</p> <p>หลังจากนั้น เรามีแท็ก `<body data-rsssl=1>` ซึ่งจะใช้ระบุส่วนของเนื้อหาที่แสดงบนหน้าเว็บไซต์ ในตัวอย่างนี้ เรามีแท็ก `</p> <h1><span id="____HTML_HTML__8220html">` เพื่อกำหนดหัวข้อหลักของเว็บไซต์ เรายังมีแท็ก `</p> <p>` เพื่อกำหนดข้อความทั่วไป</p> <p>การใช้งานส่วนย่อยของ HTML</p> <p>HTML ยังมีการใช้งานส่วนย่อยมากมายเพื่อกำหนดโครงสร้างและรายละเอียดของส่วนต่างๆ ของเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น:</p> <p>“`html<br /> <!DOCTYPE html><br /> <html><br /> <head><br /> <title>เว็บไซต์ฉัน

      หน้าหลัก

      เกี่ยวกับฉัน

      ยินดีที่ได้รู้จัก! ฉันชื่อ John Doe และฉันเป็นนักพัฒนาเว็บไซต์

      © 2022 เว็บไซต์ฉัน. สงวนลิขสิทธิ์.



      “`

      ในตัวอย่างนี้ เราระบุส่วน `