NỘI DUNG TÓM TẮT
คําสั่งภาษาซี
โครงสร้างของคำสั่งภาษาซี:
คำสั่งภาษาซีมีโครงสร้างต่อไปนี้:
1. คำสั่งประกาศผู้ประกอบการ: คำสั่งเช่น int, float, char, double, หรือ void ใช้ในการประกาศตัวแปร เพื่อระบุประเภทของข้อมูลที่ต้องการเก็บไว้ในหน่วยความจำ
2. คำสั่งประกาศตัวแปร: คำสั่งเช่น int x, y, z; ใช้ในการประกาศตัวแปรที่ต้องการใช้งานและกำหนดประเภทของข้อมูลที่ต้องการเก็บรักษาไว้ในตัวแปรนั้น
3. คำสั่งควบคุม: คำสั่งเช่น if, else, for, while, do while, switch ใช้ในการควบคุมการกระทำของโปรแกรมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อทำให้โปรแกรมทำงานได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ
4. คำสั่งตรรกะ: คำสั่งเช่น &&, ||, ! ใช้ในการทำเงื่อนไขเชิงตรรกศาสตร์เพื่อให้ตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงหรือเท็จ
5. คำสั่งอ้างอิงและการเข้าถึงข้อมูล: คำสั่งเช่น & และ * ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งในหน่วยความจำของตัวแปรหรืออ้างอิงและการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในตำแหน่งนั้น
6. ฟังก์ชันการคำนวณ: คำสั่งเช่น +, -, *, /, % ใช้ในการคำนวณตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์และทางตรรกะ
7. คำสั่งการเขียนแฟ้ม: คำสั่งเช่น fopen, fclose, fread, fwrite, fseek ใช้ในการเขียนและอ่านข้อมูลจากแฟ้ม
8. คำสั่งตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาด: คำสั่งเช่น try, catch, throw ใช้ในการตรวจสอบและแก้ไขข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นในการทำงานของโปรแกรม
ประเภทของคำสั่งภาษาซี:
มีหลายประเภทของคำสั่งภาษาซี อาทิเช่น:
– คำสั่งควบคุม: คำสั่ง if, else, for, while, do while ใช้ในการควบคุมการกระทำของโปรแกรมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อทำให้โปรแกรมทำงานได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ
– คำสั่งตรรกะ: คำสั่งเช่น &&, ||, ! ใช้ในการทำเงื่อนไขเชิงตรรกศาสตร์เพื่อให้ตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงหรือเท็จ
– คำสั่งอ้างอิงและการเข้าถึงข้อมูล: คำสั่งเช่น & และ * ใช้ในการอ้างอิงตำแหน่งในหน่วยความจำของตัวแปรหรืออ้างอิงและการเข้าถึงข้อมูลที่อยู่ในตำแหน่งนั้น
– ฟังก์ชันการคำนวณ: คำสั่งเช่น +, -, *, /, % ใช้ในการคำนวณตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์และทางตรรกะ
– คำสั่งการเขียนแฟ้ม: คำสั่งเช่น fopen, fclose, fread, fwrite, fseek ใช้ในการเขียนและอ่านข้อมูลจากแฟ้ม
ตัวแปรและการประกาศตัวแปรในภาษาซี:
ตัวแปรในภาษาซีเป็นพื้นที่ในหน่วยความจำที่ไว้สำหรับเก็บข้อมูล การประกาศตัวแปรมีรูปแบบดังนี้:
ประเภทของข้อมูล ชื่อตัวแปร;
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรในภาษาซี:
int x;
float y;
char z;
การใช้งานคำสั่งควบคุมในภาษาซี:
คำสั่งควบคุมในภาษาซีถูกใช้ในการควบคุมการกระทำของโปรแกรมขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อให้โปรแกรมทำงานได้อย่างถูกต้องและเป็นระเบียบ คำสั่งควบคุมที่ใช้ได้แก่:
– คำสั่ง if: คำสั่ง if ใช้ในการดำเนินการกับบล็อกของคำสั่งเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
– คำสั่ง else if: คำสั่ง else if ใช้ในการดำเนินการกับบล็อกของคำสั่งเมื่อเงื่อนไขก่อนหน้านี้เป็นเท็จและเงื่อนไขประเมินเป็นจริง
– คำสั่ง else: คำสั่ง else ใช้ในการดำเนินการกับบล็อกของคำสั่งเมื่อเงื่อนไขก่อนหน้านี้เป็นเท็จทั้งหมด
– คำสั่ง for: คำสั่ง for ใช้ในการทำซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
– คำสั่ง while: คำสั่ง while ใช้ในการทำงานซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
– คำสั่ง do while: คำสั่ง do while ใช้ในการทำงานซ้ำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง ซึ่งจะต่างจากคำสั่ง while ที่จะทำงานซ้ำก่อนที่จะตรวจสอบเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
การใช้งานคำสั่งตรรกะในภาษาซี:
คำสั่งตรรกะในภาษาซีถูกใช้ในการทำเงื่อนไขเชิงตรรกศาสตร์เพื่อให้ตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงหรือเท็จ คำสั่งตรรกะที่ใช้ได้แก่:
– คำสั่งทางดนตรี: คำสั่งเพื่อเปรียบเทียบค่าสองค่าเช่น a == b (a เท่ากับ b), a != b (a ไม่เท่ากับ b), a < b (a น้อยกว่า b), a <= b (a น้อยกว่าหรือเท่ากับ b), a > b (a มากกว่า b), a >= b (a มากกว่าหรือเท่ากับ b)
– คำสั่งแบบดิบ: คำสั่งเพื่อตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงหรือเท็จเช่น !a (a เป็นเท็จ)
– คำสั่งแบบสมาชิก: คำสั่งเพื่อตรวจสอบว่าสมาชิกที่กำหนดอยู่ในอาร์เรย์หรือสตริงเช่น a[i] (a มีสมาชิกที่ตำแหน่ง i)
การใช้งานคำสั่งอ้างอิงและการเข้าถึงข้อมูลในภา
สอนภาษาซี C: การใช้คำสั่ง For Loop เพื่อทำงานซ้ำ (ตอนที่ 1)
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: คําสั่งภาษาซี คําสั่ง c++ ทั้งหมด, คําสั่ง c++ เบื้องต้น, คํา สั่ง เปรียบเทียบ ภาษา C, คําสั่งรับข้อมูล ภาษาซี, คําสั่ง & คือ, คําสั่งภาษา c#, คําสั่งแสดงผล ภาษาซี, เครื่องหมาย ลงท้าย คํา สั่ง ต่างๆ ในภาษาซี
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คําสั่งภาษาซี

หมวดหมู่: Top 30 คําสั่งภาษาซี
ดูเพิ่มเติมที่นี่: themtraicay.com
คําสั่ง C++ ทั้งหมด
ในบทความนี้ จะสำรวจคำสั่ง C++ ทั้งหมดที่น่าสนใจและอธิบายการใช้งานแบบละเอียด ผู้อ่านสามารถศึกษาแนวคิดหลักของแต่ละคำสั่งและตัวอย่างการใช้งานได้อย่างครบถ้วน
1. คำสั่ง if-else
คำสั่ง if-else ใช้ในการทำให้โปรแกรมทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง (true) โปรแกรมจะทำงานในส่วนของ if และถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ (false) โปรแกรมจะทำงานในส่วนของ else
ตัวอย่างการใช้งาน:
“`cpp
int x = 10;
if (x > 5) {
cout << "x มากกว่า 5" << endl;
} else {
cout << "x ไม่มากกว่า 5" << endl;
}
```
2. คำสั่ง for
คำสั่ง for ใช้ในการทำซ้ำกลุ่มคำสั่งในส่วนของลูปตามจำนวนรอบที่กำหนด
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
for (int i = 0; i < 5; i++) {
cout << i << endl;
}
```
3. คำสั่ง while
คำสั่ง while ใช้ในการทำซ้ำกลุ่มคำสั่งในส่วนของลูปตามเงื่อนไขที่กำหนดจนกว่าเงื่อนไขจะเป็นเท็จ
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int i = 0;
while (i < 5) {
cout << i << endl;
i++;
}
```
4. คำสั่ง do-while
คำสั่ง do-while ใช้ในการทำซ้ำกลุ่มคำสั่งในส่วนของลูปตามเงื่อนไขที่กำหนด แตกต่างจาก while ตรงที่เงื่อนไขจะถูกตรวจสอบหลังจากที่กลุ่มคำสั่งถูกทำงานแล้ว
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int i = 0;
do {
cout << i << endl;
i++;
} while (i < 5);
```
5. คำสั่ง switch
คำสั่ง switch ใช้ในการทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยเลือกทำงานในส่วนของ case ที่ตรงกับค่าที่ได้รับเท่านั้น
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int day = 3;
switch (day) {
case 1:
cout << "วันจันทร์" << endl;
break;
case 2:
cout << "วันอังคาร" << endl;
break;
case 3:
cout << "วันพุธ" << endl;
break;
default:
cout << "วันอื่น ๆ" << endl;
break;
}
```
6. คำสั่ง break
คำสั่ง break ใช้ในการพังลงจากลูปหรือการกระโดดออกจากลูปทันทีที่ถูกเรียกใช้งาน
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
for (int i = 0; i < 10; i++) {
if (i == 5) {
break;
}
cout << i << endl;
}
```
7. คำสั่ง continue
คำสั่ง continue ใช้ในการข้ามรอบปัจจุบันของลูปและเริ่มรอบใหม่ทันที
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
for (int i = 0; i < 5; i++) {
if (i == 2) {
continue;
}
cout << i << endl;
}
```
8. คำสั่ง return
คำสั่ง return ใช้ในการส่งค่ากลับจากฟังก์ชัน และสิ้นสุดการทำงานของฟังก์ชัน
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int add(int a, int b) {
return a + b;
}
```
9. คำสั่ง cin
คำสั่ง cin ใช้ในการรับค่าจากผู้ใช้ผ่านทางคีย์บอร์ด
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int x;
cout << "กรุณาป้อนตัวเลข: ";
cin >> x;
“`
10. คำสั่ง cout
คำสั่ง cout ใช้ในการแสดงผลทางหน้าจอ (Console)
ตัวอย่างการใช้งาน:
“`cpp
cout << "สวัสดี C++" << endl;
```
11. คำสั่ง array
คำสั่ง array ใช้ในการสร้างตัวแปรชนิดหนึ่งที่เก็บข้อมูลหลายชิ้นในตัวเดียว และเข้าถึงข้อมูลที่เก็บได้โดยใช้ตัวดำเนินการ []
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int numbers[] = {1, 2, 3, 4, 5};
cout << numbers[0] << endl; // แสดงผลลัพธ์เป็น 1
```
12. คำสั่ง function
คำสั่ง function ใช้ในการแยกส่วนของโปรแกรมเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและนำไปใช้ซ้ำ
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int add(int a, int b) {
return a + b;
}
```
13. คำสั่ง pointer
คำสั่ง pointer ใช้ในการเก็บที่อยู่ของตัวแปร และเข้าถึงค่าข้อมูลได้โดยตรง
ตัวอย่างการใช้งาน:
```cpp
int x = 10;
int* ptr = &x;
cout << *ptr << endl; // แสดงผลลัพธ์เป็น 10
```
FAQs:
1. Q: C++ คืออะไร?
A: C++ เป็นภาษาโปรแกรมที่พัฒนามาจากภาษา C โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์และความสามารถเพิ่มเติม เช่น การใช้งานอ็อบเจ็กต์และการเขียนโปรแกรมที่ยืดหยุ่นมากขึ้น
2. Q: การเขียนโปรแกรมภาษา C++ มีประโยชน์อย่างไร?
A: การเขียนโปรแกรมภาษา C++ มีประโยชน์ในด้านหลายด้าน เช่น เพิ่มประสิทธิภาพของโปรแกรม ปรับแต่งได้ตามความต้องการ เป็นภาษาที่ใช้งานอย่างกว้างขวางในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เป็นต้น
3. Q: ฟังก์ชันคืออะไร?
A: ฟังก์ชันเป็นส่วนของโปรแกรมที่มีคำสั่งที่รวมกันเพื่อทำงานบางอย่าง เมื่อมีการเรียกใช้งานฟังก์ชัน โปรแกรมจะทำงานในส่วนของฟังก์ชันนั้น
4. Q: ทำไมต้องใช้ pointers ใน C++?
A: Pointers ใช้ในการจัดการและเข้าถึงข้อมูลตามที่อยู่ของตัวแปร ช่วยให้สามารถปรับแต่งโปรแกรมได้มากขึ้นและเข้าถึงข้อมูลได้โดยตรง
5. Q: ต่างจากภาษา C อย่างไร?
A: C++ ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมจากภาษา C โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์และความสามารถต่างๆ เช่นการใช้งานอ็อบเจ็กต์ การจัดทำคลาส และฟังก์ชันที่มีการเก็บที่อยู่ของฟังก์ชัน เป็นต้น
ในบทความนี้ได้กล่าวถึงคำสั่ง C++ ทั้งหมดที่น่าสนใจและอธิบายการใช้งานอย่างละเอียด ด้วยความยาวเพียง 936 คำ อ่านแล้วหวังว่าคุณจะมีความเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเขียนโปรแกรม C++ ได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
คําสั่ง C++ เบื้องต้น
บทนำสั้นๆ เกี่ยวกับภาษา C++
ภาษา C++ เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่พัฒนาโดย Bjarne Stroustrup ในช่วงปี 1983-1985 องค์กร ICT (International Organization for Standardization) กำหนดมาตรฐานของภาษา C++ เป็น ISO/IEC 14882 ทำให้เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งอย่างเป็นทางการ ในปัจจุบันโปรแกรม C++ นับว่าเป็นภาษาโปรแกรมที่โด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก
1. คำสั่งคอมไพล์ (Compiler Directives)
คำสั่งคอมไพล์ในภาษา C++ จะช่วยให้โปรแกรมเราสามารถรันได้อย่างถูกต้อง ประกอบไปด้วยคำสั่ง #include ซึ่งใช้เพื่อนำเข้าไฟล์หัว (header files) ที่ใช้ในการประยุกต์ใช้งานในโปรแกรม ยกตัวอย่างเช่น
“`
#include
#include
“`
2. คำสั่งหลัก (Main Function)
คำสั่งหลักในภาษา C++ คือฟังก์ชัน main โดยฟังก์ชันนี้จะถูกรันและเริ่มต้นทุกครั้งที่โปรแกรมถูกเรียกใช้งาน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
“`
int main() {
// โค้ดในส่วนนี้จะถูกรันเป็นต้นและคืนค่ากลับไปยังที่เรียกใช้งานโปรแกรม
return 0;
}
“`
3. คำสั่งประกาศตัวแปร (Variable Declaration)
ในภาษา C++ เราจำเป็นต้องประกาศตัวแปรก่อนที่จะนำมาใช้งาน คำสั่งประกาศตัวแปรสามารถทำได้ด้วยรูปแบบดังนี้
“`
<ประเภทของข้อมูล> <ชื่อตัวแปร>;
“`
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรและกำหนดค่า
“`
int number;
number = 10;
“`
หรือเราสามารถรวมการประกาศและกำหนดค่าได้อย่างเดียวกัน
“`
int number = 10;
“`
4. คำสั่งเงื่อนไข (Conditional Statements)
คำสั่งเงื่อนไขในภาษา C++ ช่วยให้โปรแกรมสามารถตรวจสอบและตัดสินใจด้วยเงื่อนไขต่างๆ ได้ เราสามารถใช้คำสั่ง if else หรือ switch case เพื่อทำเช่นนี้ เช่น
“`
int age = 18;
if (age >= 18) {
cout << "คุณสามารถเข้าสู่เว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ได้";
} else {
cout << "คุณไม่สามารถเข้าสู่เว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ได้";
}
```
5. คำสั่งลูป (Loops)
คำสั่งลูปในภาษา C++ ช่วยให้เราสามารถทำงานซ้ำๆ ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด เราสามารถใช้คำสั่ง for, while, หรือ do-while เพื่อทำเช่นนี้ เช่น
```
for (int i = 0; i < 5; i++) {
cout << i << endl;
}
int j = 0;
while (j < 5) {
cout << j << endl;
j++;
}
int k = 0;
do {
cout << k << endl;
k++;
} while (k < 5);
```
คำสั่งเหล่านี้จะพิมพ์ตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 4 ลงบนหน้าจอ
6. คำสั่งลำดับ (Sequences)
ภาษา C++ ทำงานตามลำดับที่กำหนด เมื่อเราใส่คำสั่งในโปรแกรมโดยไม่มีคำสั่งเงื่อนไขหรือคำสั่งลูป เราสามารถจัดลำดับคำสั่งต่างๆ เพื่อให้ทำงานตามลำดับที่ต้องการ เช่น
```
cout << "สวัสดี" << endl;
cout << "ยินดีต้อนรับสู่โปรแกรม C++" << endl;
```
โปรแกรมดังกล่าวจะพิมพ์ข้อความ "สวัสดี" และ "ยินดีต้อนรับสู่โปรแกรม C++" ลงบนหน้าจอ
คำสั่งเหล่านี้เป็นหลักการพื้นฐานในการเขียนโปรแกรม C++ และสามารถประยุกต์ใช้งานได้ในภาษาโปรแกรมมิ่งอื่นๆ และนี่คือคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำสั่ง C++ เบื้องต้น
คำถามที่ 1: C++ คืออะไร?
C++ เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งที่พัฒนาขึ้นในช่วงปี 1983-1985 โดย Bjarne Stroustrup และกำหนดมาตรฐานเป็น ISO/IEC 14882 ภาษา C++ เป็นภาษาที่เขียนขึ้นเพื่อสนองความต้องการในการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ เน้นความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพ
คำถามที่ 2: คำสั่งหลักใน C++ คืออะไร?
คำสั่งหลักในภาษา C++ คือฟังก์ชัน main ที่จะถูกรันและเริ่มต้นทุกครั้งที่โปรแกรมถูกเรียกใช้งาน ในฟังก์ชัน main เราสามารถเรียกใช้งานคำสั่งและฟังก์ชันอื่นๆ ได้ตามต้องการ
คำถามที่ 3: ภาษา C++ มีความยืดหยุ่นอย่างไร?
ภาษา C++ เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่มีความยืดหยุ่นสูง โดยสามารถใช้ร่วมกับภาษาอื่น ๆ ได้ เช่น C, Java, Python และอื่น ๆ นอกจากนี้ยังมีคลาสและพอลิมอร์ฟิสซึ่มที่ช่วยให้สามารถเขียนโปรแกรมในรูปแบบ OOP (Object-Oriented Programming) ได้
คำถามที่ 4: ฉันจำเป็นต้องประกาศตัวแปรก่อนใช้งานใน C++ ใช่ไหม?
ใช่, ในภาษา C++ เราต้องประกาศตัวแปรก่อนที่จะใช้งาน การประกาศตัวแปรเป็นขั้นตอนสำคัญที่เตรียมพื้นที่หน่วยความจำในการเก็บข้อมูล
คำถามที่ 5: ภาษา C++ มีคำสั่งเงื่อนไขอย่างไรบ้าง?
ในภาษา C++ เราสามารถใช้คำสั่ง if else หรือ switch case เพื่อเปรียบเทียบค่าและตัดสินใจด้วยเงื่อนไขที่กำหนด
คำถามที่ 6: ภาษา C++ มีลูปอย่างไรบ้าง?
ในภาษา C++ เราสามารถใช้คำสั่ง for, while หรือ do-while เพื่อสร้างลูปที่ช่วยทำงานซ้ำๆ ได้ตามเงื่อนไขที่กำหนด
คำถามที่ 7: ภาษา C++ ทำงานตามลำดับอย่างไร?
ภาษา C++ ทำงานตามลำดับที่เรากำหนด โปรแกรมจะทำงานตามลำดับที่เราเขียนคำสั่ง หากไม่มีคำสั่งเงื่อนไขหรือคำสั่งลูป โปรแกรมจะทำงานตามลำดับจากบนลงล่าง
คํา สั่ง เปรียบเทียบ ภาษา C
คำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C สามารถใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขที่เป็นจริงหรือเท็จ ให้กับข้อมูลหรือตัวแปรที่กำหนดได้ โดยมีสัญลักษณ์พิเศษสองตัว คือ == (เท่ากับ) และ != (ไม่เท่ากับ) สำหรับการเปรียบเทียบค่า
เมื่อใช้เครื่องหมาย== เราต้องการทราบว่าค่าของสองตัวแปรหรือข้อมูลเท่ากันหรือไม่ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง เอาไว้เช็คผลลัพธ์จากเงื่อนไข และหากเป็นเท็จให้ข้ามไป
ตัวอย่างการใช้คำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C:
“`c
int a = 5;
int b = 10;
if (a == b) {
printf(“a เท่ากับ b”);
} else if (a != b) {
printf(“a ไม่เท่ากับ b”);
}
“`
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น “a ไม่เท่ากับ b” เนื่องจากเงื่อนไขไม่เป็นจริง ค่า a ไม่เท่ากับ b
นอกจาก== เรายังสามารถใช้เครื่องหมายอื่น ๆ ในการเปรียบเทียบค่าในภาษา C เช่น > (มากกว่า), < (น้อยกว่า), >= (มากกว่าหรือเท่ากับ), <= (น้อยกว่าหรือเท่ากับ)
ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดโดยคำสั่งเปรียบเทียบ คำสั่ง if-else ในภาษา C จะถูกใช้เพื่อทำให้โปรแกรมตัดสินใจสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้
ตัวอย่างอีกตัว:
```c
int score = 80;
if (score > 90) {
printf(“คุณได้เกรด A”);
} else if (score > 80) {
printf(“คุณได้เกรด B”);
} else if (score > 70) {
printf(“คุณได้เกรด C”);
} else {
printf(“คุณไม่ผ่าน”);
}
“`
ถ้าคะแนนเท่ากับ 80 ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น “คุณได้เกรด B” เนื่องจากเงื่อนไขในบล็อกต่อไปนั้นเป็นเท็จ
นอกจากคำสั่ง if-else ภาษา C ยังมีคำสั่งเงื่อนไขอื่น ๆ เช่น switch-case ที่ใช้ในกรณีที่มีเงื่อนไขเป็นตัวเลือกหลายอัน
“`c
int day = 2;
switch (day) {
case 1:
printf(“วันจันทร์”);
break;
case 2:
printf(“วันอังคาร”);
break;
case 3:
printf(“วันพุธ”);
break;
default:
printf(“วันที่ไม่รู้จัก”);
break;
}
“`
ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็น “วันอังคาร” เนื่องจากค่าของตัวแปร day เป็น 2
คำถามที่พบบ่อย
1. คำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C ใช้กับข้อมูลประเภทใดบ้าง?
คำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C สามารถใช้กับข้อมูลประเภทตัวเลขทั้งจำนวนเต็มและทศนิยมได้ และสามารถใช้กับข้อมูลประเภทตัวอักษรเท่านั้น
2. สามารถใช้เครื่องหมายเปรียบเทียบได้อย่างไรในภาษา C?
ในภาษา C เราใช้เครื่องหมาย == เพื่อเปรียบเทียบว่าค่าสองค่าเท่ากันหรือไม่ และใช้เครื่องหมาย != เพื่อเปรียบเทียบว่าค่าสองค่าไม่เท่ากัน
3. คำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C เป็นส่วนสำคัญอย่างไร?
คำสั่งเปรียบเทียบเป็นส่วนสำคัญในการเปรียบเทียบข้อมูลและตัดสินใจในการทำงานของโปรแกรม โดยช่วยให้โปรแกรมสามารถตรวจสอบเงื่อไขและดำเนินการตามผลการเปรียบเทียบของข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
4. คำสั่งอื่น ๆ ที่ใช้พร้อมกับคำสั่งเปรียบเทียบในภาษา C คืออะไร?
นอกจากคำสั่ง if-else และ switch-case ที่ใช้เงื่อนไขเป็นตัวเลือกที่แตกต่าง ยังมีคำสั่งอื่น ๆ เช่น while-loop และ for-loop ที่ใช้ในการทำซ้ำเงื่อนไขตามที่กำหนด
5. มีการใช้เครื่องหมายเปรียบเทียบอื่น ๆ ในภาษา C อีกไหม?
ในภาษา C ยังมีเครื่องหมายเปรียบเทียบอื่น ๆ เช่น > (มากกว่า), < (น้อยกว่า), >= (มากกว่าหรือเท่ากับ), <= (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) ที่ใช้ในการเปรียบเทียบค่าตัวเลข
มี 31 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คําสั่งภาษาซี.
















































ลิงค์บทความ: คําสั่งภาษาซี.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ คําสั่งภาษาซี.
- หน่วยที่ 4 คำสั่งพื้นฐานในภาษาซี : การโปรแกรมเบื้องต้น
- คำสั่งต่างๆในภาษาซี
- 1.2 คำสั่งพื้นฐาน – การโปรแกรมเบื้องต้น ม.1 – Google Sites
- คำสั่งควบคุม if else switch for while do while ภาษา C++
- if(เงื่อนไข){ คําสั่งเมื่อเงื่อนไขเป นจริง } == เท !
ดูเพิ่มเติม: https://themtraicay.com/category/facts-first