NỘI DUNG TÓM TẮT
คําสั่ง ภาษา C
ภาษา C เป็นภาษาโปรแกรมที่มีความสามารถที่มากมายและนับถืออย่างแพร่หลายในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ ภาษานี้ถูกสร้างขึ้นโดย Dennis Ritchie ในปี 1972 ที่บริษัท Bell Labs เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ UNIX ที่เขียนด้วยภาษาแอสเซมบลี ภาษา C เป็นภาษาโปรแกรมระดับสูงที่เลือกใช้ในการพัฒนาทั้งระบบปฏิบัติการเชิงพื้นฐาน และแอปพลิเคชันทั่วไป
ภาษา C มีลักษณะเป็นภาษาโครงสร้างคอมพิวเตอร์แบบที่มีการสั่งสมบัติที่เป็นระเบียบ เนื่องจากลักษณะของภาษาที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้นักพัฒนาสามารถควบคุมระดับสูงสุดของระบบได้ โดยยังรองรับการใช้งานส่วนตัว การใช้หน่วยความจำอย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างโค้ดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้การเขียนโปรแกรมด้วยภาษา C เป็นอย่างมาก
คำสั่งภาษา C: การประกาศตัวแปรและประเภทข้อมูล
ในภาษา C การประกาศตัวแปรและประเภทข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกโปรแกรมเมอร์ควรเรียนรู้ การประกาศตัวแปรในภาษา C เริ่มต้นด้วยการระบุชนิดของตัวแปร นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดค่าเริ่มต้นให้กับตัวแปรได้ในขั้นตอนเดียวกัน นี่คือตัวอย่างการประกาศตัวแปรในภาษา C:
int main()
{
int age = 25;
float height = 175.5;
char grade = ‘A’;
return 0;
}
ในตัวอย่างด้านบน เราประกาศตัวแปรอายุเป็นชนิด int และกำหนดค่าเริ่มต้นเป็น 25 ตัวแปรความสูงเราต้องการชนิดข้อมูลเป็น float และกำหนดค่าเริ่มต้นเป็น 175.5 และตัวแปรเกรดเรากำหนดชนิด char และค่าเริ่มต้นเป็น ‘A’
คําสั่งภาษา C: โครงสร้างควบคุมการทํางาน
โครงสร้างควบคุมการทํางานในภาษา C ช่วยให้เราสามารถควบคุมลำดับการทํางานในโปรแกรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างควบคุมที่พบบ่อยในภาษา C ได้แก่ if-else, for loop, while loop, do while loop และ switch statement
ตัวอย่างเช่นในโค้ดด้านล่างนี้จะแสดงถึงการใช้งาน if-else ในภาษา C:
int main()
{
int age = 18;
if (age >= 18)
{
printf(“You are an adult.\n”);
}
else
{
printf(“You are not an adult.\n”);
}
return 0;
}
โค้ดด้านบนจะตรวจสอบว่าอายุของผู้ใช้มีอายุมากกว่าหรือเท่ากับ 18 หรือไม่ ถ้าใช่จะแสดงข้อความ “You are an adult.” และถ้าไม่ใช่จะแสดงข้อความ “You are not an adult.”
โครงสร้างควบคุมการทํางานเหล่านี้ช่วยให้เราสามารถใช้โปรแกรมให้มีการตรวจสอบเงื่อนไขและวนซ้ำข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คําสั่งภาษา C: การดําเนินการทางคณิตศาสตร์
ภาษา C ยังรองรับการดําเนินการทางคณิตศาสตร์ทั้งแบบเลขฐานสองและเลขฐานสิบ ตัวดําเนินการทางคณิตศาสตร์ที่พบบ่อยในภาษา C ได้แก่ +, -, *, /, % (modulo)
ตัวอย่างการใช้ตัวดําเนินการทางคณิตศาสตร์ในภาษา C ดังต่อไปนี้:
int main()
{
int x = 10;
int y = 3;
int sum = x + y;
int difference = x – y;
int product = x * y;
int division = x / y;
int modulo = x % y;
printf(“Sum: %d\n”, sum);
printf(“Difference: %d\n”, difference);
printf(“Product: %d\n”, product);
printf(“Division: %d\n”, division);
printf(“Modulo: %d\n”, modulo);
return 0;
}
โค้ดด้านบนจะแสดงผลลัพธ์ดังต่อไปนี้:
Sum: 13
Difference: 7
Product: 30
Division: 3
Modulo: 1
คําสั่งภาษา C: การสร้างฟังก์ชัน
ในภาษา C เราสามารถสร้างฟังก์ชันขึ้นมาเองได้ เพื่อทำให้โค้ดของเรามีความสามารถที่ยืดหยุ่นมากขึ้นและง่ายต่อการอ่านและแก้ไข
ตัวอย่างการสร้างฟังก์ชันในภาษา C ดังนี้:
int square(int x)
{
return x * x;
}
int main()
{
int result = square(5);
printf(“Result: %d\n”, result);
return 0;
}
ในตัวอย่างด้านบน เราสร้างฟังก์ชันชื่อ “square” ซึ่งรับพารามิเตอร์ x และคืนค่า x ยกกำลังสอง ในฟังก์ชัน main เราเรียกใช้ฟังก์ชัน square ด้วยค่า 5 และแสดงผลลัพธ์เป็น 25
การใช้งานฟังก์ชันช่วยให้เราสามารถสร้างโปรแกรมที่สามารถนำไปใช้งานซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระเบียบ
คําสั่งภาษา C: การใช้งานอาร์เรย์และสตริง
ในภาษา C เราสามารถใช้งานอาร์เรย์และสตริงเพื่อจัดเก็บข้อมูลหลายๆ รายการได้
ตัวอย่างการใช้งานอาร์เรย์ในภาษา C ดังนี้:
int main()
{
int numbers[5] = {1, 2, 3, 4, 5};
printf(“First number: %d\n”, numbers[0]);
printf(“Second number: %d\n”, numbers[1]);
printf(“Third number: %d\n”, numbers[2]);
printf(“Fourth number: %d\n”, numbers[3]);
printf(“Fifth number: %d\n”, numbers[4]);
return 0;
}
ในตัวอย่างด้านบน เราสร้างอาร์เรย์ชื่อ “numbers” ที่มีขนาด 5 และกำหนดค่าแต่ละอาร์เรย์ด้วยเลข 1, 2, 3, 4, 5 หลังจากนั้นเราแสดงค่าแต่ละอาร์เรย์โดยใช้ตัวดัชนี
การใช้งานสตริงในภาษา C นั้นมีลักษณะคล้ายกับการใช้อาร์เรย์ โดยสามารถใช้ตัวแปรชนิด char array เพื่อเก็บข้อความได้
ตัวอย่างการใช้งานสตริงในภาษา C ดังต่อไปนี้:
int main()
{
char name[20] = “John Doe”;
printf(“Name: %s\n”, name);
return 0;
}
ในตัวอย่างด้านบน เราสร้างสตริงชื่อ “John Doe” และกำหนดขนาดสตริงให้เป็น 20 ตัวอักษร และแสดงค่าสตริงโดยใช้ %s ในฟังก์ชัน printf
คําสั่งภาษา C: ตัวดําเนินการบนบิต
ภาษา C มีตัวดําเนินการบนบิตที่ช่วยให้เราเข้าถึงและดําเนินการกับข้อมูลในรูปแบบของบิต
ตัวอย่างคำสั่งภาษา C ของตัวดำเนินการบนบิต ได้แก่ & (and), | (or), ^ (xor), ~ (not), << (left shift) และ >> (right shift)
ตัวอย่างการใช้งานตัวดําเนินการบนบิต:
int main()
{
unsigned int a = 60; // 0011
สอนภาษาซี C: การใช้คำสั่ง For Loop เพื่อทำงานซ้ำ (ตอนที่ 1)
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: คําสั่ง ภาษา c คําสั่ง c++ เบื้องต้น, คําสั่ง c++ ทั้งหมด, ภาษา C, คําสั่ง printf, คําสั่ง if else, ใน C, N ภาษา ซี, โค้ดภาษา C
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คําสั่ง ภาษา c

หมวดหมู่: Top 54 คําสั่ง ภาษา C
ดูเพิ่มเติมที่นี่: themtraicay.com
คําสั่ง C++ เบื้องต้น
C++ เป็นภาษาโปรแกรมที่ถูกพัฒนาโดย Bjarne Stroustrup ในปี 1983 และเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในวงการโปรแกรมเมอร์ โดย C++ เป็นภาษาที่สืบทอดคุณสมบัติของภาษา C แต่ได้เพิ่มฟีเจอร์และความสามารถใหม่เข้ามาอีกมากมาย
การเขียนโปรแกรมด้วย C++ นั้นเริ่มต้นด้วยการใช้คําสั่งภาษาเบื้องต้น ซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้โปรแกรมเมอร์สามารถควบคุมการทํางานของโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง ต่อไปนี้คืออธิบายเกี่ยวกับคําสั่ง C++ เบื้องต้นที่เราควรรู้
1. คําสั่งการแสดงผล (Output)
คําสั่งที่ใช้สําหรับแสดงผลใน C++ คือคําสั่ง “cout” โดยคุณสมบัติของคําสั่งนี้คือการแสดงข้อความหรือข้อมูลทางหน้าจอ ตัวอย่างเช่น
“`cpp
#include
using namespace std;
int main() {
cout << "Hello, World!";
return 0;
}
```
คําสั่งนี้จะทําการแสดงผล "Hello, World!" บนหน้าจอ
2. คําสั่งรับข้อมูล (Input)
คําสั่งที่ใช้สําหรับรับข้อมูลจากผู้ใช้งานใน C++ คือคําสั่ง "cin" โดยคุณสมบัติของคําสั่งนี้คือการรับข้อมูลจากผู้ใช้งานผ่านทางคีย์บอร์ด ตัวอย่างเช่น
```cpp
#include
using namespace std;
int main() {
int num;
cout << "Enter a number: ";
cin >> num;
cout << "You entered: " << num;
return 0;
}
```
คําสั่งนี้จะขอให้ผู้ใช้งานป้อนจํานวนเต็มและแสดงผลค่าที่ป้อนไว้
3. คําสั่งเงื่อนไข (Conditional)
คําสั่งที่ใช้สําหรับตรวจสอบเงื่อนไขใน C++ คือคําสั่ง "if" โดยคุณสมบัติของคําสั่งนี้คือการทํางานตามเงื่อนไขที่กําหนด ตัวอย่างเช่น
```cpp
#include
using namespace std;
int main() {
int num;
cout << "Enter a number: ";
cin >> num;
if (num > 0) {
cout << "Positive number";
} else if (num < 0) {
cout << "Negative number";
} else {
cout << "Zero";
}
return 0;
}
```
คําสั่งนี้จะตรวจสอบว่าจํานวนที่ผู้ใช้ป้อนเป็นบวกหรือลบหรือศูนย์ และแสดงผลตามเงื่อนไขที่ตรวจสอบ
4. คําสั่งวนซ้ำ (Loop)
คําสั่งที่ใช้สําหรับวนซ้ำใน C++ คือคําสั่ง "for" โดยคุณสมบัติของคําสั่งนี้คือการทําซ้ำจนกว่าเงื่อนไขที่กําหนดจะเป็นเท็จ ตัวอย่างเช่น
```cpp
#include
using namespace std;
int main() {
for (int i = 1; i <= 5; i++) {
cout << i << " ";
}
return 0;
}
```
คําสั่งนี้จะทําการวนซ้ำ 5 ครั้งและแสดงผลตัวเลขที่วนซ้ำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
1. C++ คืออะไร?
C++ เป็นภาษาโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นโดย Bjarne Stroustrup และสืบทอดคุณสมบัติของภาษา C ดัดแปลงและเพิ่มฟีเจอร์โดยตรงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถ
2. คําสั่งใน C++ มีอะไรบ้าง?
คําสั่งใน C++ มีหลากหลายประเภทเช่น คําสั่งแสดงผล、คําสั่งรับข้อมูล、คําสั่งเงื่อนไข และคําสั่งวนซ้ำ เพื่อปรับความสามารถของโปรแกรม
3. C++ เหมาะสําหรับการพัฒนาอะไร?
C++ เหมาะสําหรับการพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น โปรแกรมเชิงกลขนาดใหญ่ โปรแกรมกราฟิก และเกมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังใช้งานกับระบบสูงสุดเช่นระบบปฏิบัติการ
4. มีเครื่องมือใดที่ใช้ในการเขียนและคอมไพล์โปรแกรม C++ ได้บ้าง?
มีหลายเครื่องมือที่สามารถใช้ในการเขียนและคอมไพล์โปรแกรม C++ เช่น Microsoft Visual Studio、GCC、Clang และ Code::Blocks อีกนอกจากนี้ยังมีเครื่องมือออนไลน์ที่ใช้ในการคอมไพล์โปรแกรม C++
5. ทำไมถึงควรเรียนรู้ภาษา C++?
ภาษา C++ เป็นภาษาที่ใช้งานแพร่หลายในวงการโปรแกรมเมอร์ การเรียนรู้ C++ จะช่วยพัฒนาทักษะทางด้านโปรแกรมเมอร์และเปิดโอกาสในการทํางานในสายอาชีพที่เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์
ในบทความนี้เราได้สอนคําสั่ง C++ เบื้องต้นที่อย่างสำคัญที่โปรแกรมเมอร์ควรรู้ เรียนรู้และฝึกปฏิบัติการเพื่อเพิ่มทักษะและความเข้าใจในการพัฒนาโปรแกรมด้วย C++ ขอให้สนุกและสํารวจความสามารถของคุณได้!
คําอธิบายเกี่ยวกับคําสั่ง C++ เบื้องต้นในบทความนี้ได้ถูกกล่าวถึงอย่างละเอียด หากคุณต้องการเรียนรู้หรือศึกษาเพิ่มเติม คุณสามารถเข้าถึงเอกสารอ้างอิงต่างๆ เกี่ยวกับ C++ ได้ง่ายๆ ออนไลน์
คําสั่ง C++ ทั้งหมด
C++ หรือภาษา C++ เป็นภาษาโปรแกรมที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1979 โดยภาษา C คือภาษาที่เป็นต้นแบบ และได้รับการพัฒนาขึ้นจากภาษา C อีกด้วย ภาษา C++ เป็นภาษาโปรแกรมแบบมีโครงสร้าง (structure) ซึ่งสามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และได้รับความนิยมสูงเป็นอย่างมากในวงกว้าง
ในบทความนี้ เราจะศึกษาคำสั่ง C++ ที่ใช้ในการเขียนโปรแกรม โดยจะพูดถึงคำสั่งที่ใช้ในการประกาศตัวแปร การประกาศฟังก์ชัน การทำงานกับอาร์เรย์ การใช้งานเงื่อนไขและการทำซ้ำ รวมถึงการทำงานกับคลาสและอ็อบเจกต์ ลองติดตามข้อมูลต่อไปเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมภาษา C++
คำสั่งการประกาศตัวแปรในภาษา C++
คำสั่งใน C++ สำหรับการประกาศตัวแปรสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก นั่นคือการประกาศตัวแปรที่ใช้งานได้ในทั่วไป และการประกาศตัวแปรที่ถูกกำหนดเป็นค่าคงที่
การประกาศตัวแปรที่ใช้งานได้ในทั่วไป
ในภาษา C++ คุณสามารถประกาศตัวแปรได้โดยใช้รูปแบบต่อไปนี้:
“`cpp
<ชนิดข้อมูล> <ชื่อตัวแปร>;
“`
ตัวอย่างการประกาศตัวแปรในภาษา C++:
“`cpp
int age;
float height;
char grade;
“`
การประกาศตัวแปรที่ถูกกำหนดเป็นค่าคงที่
ใน C++ คุณสามารถประกาศตัวแปรที่มีค่าคงที่และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้ โดยใช้คำสั่ง `const` ดังตัวอย่างต่อไปนี้:
“`cpp
const int MAX_VALUE = 100;
const float PI = 3.14;
const char NEW_LINE = ‘\n’;
“`
สังเกตว่าตัวแปรที่ถูกกำหนดเป็นค่าคงที่จะต้องมีการกำหนดค่าตั้งต้นในขณะประกาศ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าได้ในภายหลัง
คำสั่งการประกาศฟังก์ชันในภาษา C++
เราสามารถประกาศฟังก์ชันในภาษา C++ โดยใช้รูปแบบต่อไปนี้:
“`cpp
<ชนิดข้อมูลของฟังก์ชัน> <ชื่อฟังก์ชัน>() {
// การดำเนินการของฟังก์ชัน
}
“`
ตัวอย่างการประกาศและการเขียนฟังก์ชันในภาษา C++:
“`cpp
int addNumbers(int a, int b) {
int sum = a + b;
return sum;
}
“`
ฟังก์ชันด้านบนชื่อ `addNumbers` รับพารามิเตอร์สองตัวที่เป็นจำนวนเต็มและคืนค่าผลรวมของตัวเลขสองตัวนั้นเป็นผลลัพธ์
คำสั่งที่ใช้ในการทำงานกับอาร์เรย์ในภาษา C++
อาร์เรย์ในภาษา C++ เป็นโครงสร้างข้อมูลที่เก็บข้อมูลหลายๆ ชนิดในตำแหน่งต่อเนื่องกัน ซึ่งคุณสามารถเข้าถึงข้อมูลภายในอาร์เรย์โดยใช้ตัวดัชนี (index) ที่เริ่มต้นจาก 0 และสิ้นสุดที่ `n-1` โดย `n` คือขนาดของอาร์เรย์
คำสั่งใน C++ ที่ใช้ในการทำงานกับอาร์เรย์:
1. การประกาศและกำหนดค่าอาร์เรย์:
“`cpp
<ชนิดข้อมูลและขนาด> <ชื่ออาร์เรย์>[<ขนาด>];
<ชนิดข้อมูลและขนาด> <ชื่ออาร์เรย์>[] = {<รายการค่า>};
“`
2. การเข้าถึงและอ่านค่าของอาร์เรย์:
“`cpp
<ชื่ออาร์เรย์>[<ดัชนี>];
“`
3. การเปลี่ยนแปลงค่าของอาร์เรย์:
“`cpp
<ชื่ออาร์เรย์>[<ดัชนี>] = <ค่าใหม่>;
“`
ตัวอย่างการประกาศอาร์เรย์และการทำงานกับอาร์เรย์ในภาษา C++:
“`cpp
int numbers[5];
numbers[0] = 10; //ตั้งค่าตำแหน่งแรกให้เป็น 10
int value = numbers[0]; //value จะมีค่าเท่ากับ 10
“`
คำสั่งที่ใช้ในเงื่อนไขและการทำซ้ำในภาษา C++
เงื่อนไขและการทำซ้ำเป็นส่วนสำคัญของการเขียนโปรแกรม ในภาษา C++ มีคำสั่งที่ใช้ในเงื่อนไขและการทำซ้ำดังต่อไปนี้:
1. คำสั่ง `if`:
“`cpp
if (<เงื่อนไข>) {
// กระบวนการที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
} else {
// กระบวนการที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ
}
“`
2. คำสั่ง `switch`:
“`cpp
switch (<ตัวแปร>) {
case <ค่าที่เปรียบเทียบ>:
// กระบวนการที่จะทำเมื่อตัวแปรมีค่าเท่ากับค่าที่เปรียบเทียบ
break;
case <ค่าที่เปรียบเทียบ>:
// กระบวนการที่จะทำเมื่อตัวแปรมีค่าเท่ากับค่าที่เปรียบเทียบ
break;
default:
// กระบวนการที่จะทำเมื่อไม่มีค่าใน case ใดที่ตรงเงื่อนไข
break;
}
“`
3. คำสั่ง `for`:
“`cpp
for (<ค่าเริ่มต้น>; <เงื่อนไข>; <การเพิ่มค่า>) {
// กระบวนการที่จะทำซ้ำในแต่ละรอบ
}
“`
4. คำสั่ง `while`:
“`cpp
while (<เงื่อนไข>) {
// กระบวนการที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
}
“`
5. คำสั่ง `do-while`:
“`cpp
do {
// กระบวนการที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
} while (<เงื่อนไข>);
“`
คำสั่งที่ใช้ในการทำงานกับคลาสและอ็อบเจกต์ในภาษา C++
ในภาษา C++ คลาสและอ็อบเจกต์เป็นส่วนสำคัญของการเขียนโปรแกรม คำสั่งที่ใช้ในการสร้างและใช้งานคลาสและอ็อบเจกต์ ได้แก่:
1. การประกาศคลาส:
“`cpp
class <ชื่อคลาส> {
// สมาชิกและฟังก์ชันของคลาส
};
“`
2. การสร้างอ็อบเจกต์:
“`cpp
<ชื่อคลาส> <ชื่ออ็อบเจกต์>;
“`
3. การเรียกใช้ฟังก์ชันสมาชิกของคลาส:
“`cpp
<ชื่ออ็อบเจกต์>.<ชื่อฟังก์ชันสมาชิก>();
“`
4. การเข้าถึงและเปลี่ยนแปลงข้อมูลสมาชิกของคลาส:
“`cpp
<ชื่ออ็อบเจกต์>.<ชื่อสมาชิก>;
<ชื่ออ็อบเจกต์>.<ชื่อสมาชิก> = <ค่าใหม่>;
“`
ตัวอย่างการใช้งานคลาสและอ็อบเจกต์ในภาษา C++:
“`cpp
class Circle {
public:
float radius;
float calcArea() {
return 3.14 * radius * radius;
}
};
Circle myCircle;
myCircle.radius = 5.0;
float area = myCircle.calcArea(); // ค่า area สมมุติเท่ากับ 78.5
“`
คำถามที่พบบ่อย
1. Q: C++ คืออะไร?
A: C++ คือภาษาโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นจากภาษา C และมีโครงสร้างที่หลากหลาย มีความสามารถในการประกาศตัวแปร เขียนฟังก์ชัน เมทอดและการทำงานกับคลาสและอ็อบเจกต์
2. Q: ทำไมภาษา C++ ถึงได้รับความนิยมมาก?
A: C++ เป็นภาษาที่มีความสามารถมากมายและหลากหลาย สามารถใช้ในการพัฒนาโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแอปพลิเคชันเว็บ แอปพลิเคชันมือถือ และระบบที่ขึ้นอยู่กับหลาย Platform
3. Q: คำสั่งใน C++ ที่ใช้ในการเขียนฟังก์ชันคืออะไร?
A: คำสั่งใน C++ ที่ใช้ในการเขียนฟังก์ชันคือ `void`, `int`, `float`, `char` และอื่นๆ ซึ่งแสดงถึงชนิดข้อมูลที่ฟังก์ชันจะคืนค่ากลับ
4. Q: คำสั่ง `if` ใน C++ ใช้สำหรับอะไร?
A: คำสั่ง `if` ใช้ในการทำงานเงื่อนไข โดยการตรวจสอบว่าเงื่อนไขที่กำหนดเป็นจริงหรือเท็จ และจะกระทำตามคำสั่งต่อมาได้
5. Q: คำสั่ง `for` ใน C++ ใช้ประกอบด้วยอะไร?
A: คำสั่ง `for` ใช้ในการทำงานวนซ้ำ โดยมีส่วนประกอบด้วยการกำหนดค่าเริ่มต้น การตรวจสอบเงื่อน
มี 9 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คําสั่ง ภาษา c.

















































ลิงค์บทความ: คําสั่ง ภาษา c.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ คําสั่ง ภาษา c.
- หน่วยที่ 4 คำสั่งพื้นฐานในภาษาซี : การโปรแกรมเบื้องต้น
- 1.2 คำสั่งพื้นฐาน – การโปรแกรมเบื้องต้น ม.1 – Google Sites
- คำสั่งต่างๆในภาษาซี
ดูเพิ่มเติม: https://themtraicay.com/category/facts-first