NỘI DUNG TÓM TẮT
คำ สั่ง If
ในการเขียนโปรแกรมหรือการพัฒนาซอฟต์แวร์ต่าง ๆ คำสั่ง if เป็นคำสั่งที่ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขหรือการเปรียบเทียบค่าในการทำงาน โดยจะทำให้โปรแกรมสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้
เมื่อโปรแกรมถูกดำเนินการ จะกำหนดส่วนของโปรแกรมที่มีเงื่อนไขเพื่อประมวลผลอย่างไม่เหมือนกัน ส่วนนี้เรียกว่า “บล็อกที่กำหนดเงื่อนไข” ซึ่งคำสั่ง if เป็นส่วนหนึ่งของบล็อกเงื่อนไข
การใช้งานคำสั่ง if ในการตรวจสอบเงื่อนไข
คำสั่ง if สามารถใช้งานเพื่อตรวจสอบเงื่อนไขหรือการเปรียบเทียบค่าได้ โดยรูปแบบของคำสั่ง if ในภาษาไทยจะมีดังนี้:
if (เงื่อนไข) {
// ถ้าสองเงื่อนไขเป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
}
เงื่อนไขที่ใช้กับคำสั่ง if สามารถเป็นจริง (true) หรือเท็จ (false) ได้ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง โปรแกรมจะทำงานในส่วนที่อยู่ในวงเล็บปีกกา {} ซึ่งเราสามารถใส่คำสั่งหรือโค้ดที่ต้องการให้โปรแกรมทำในส่วนนี้ได้
วิธีการใช้งานคำสั่ง if-else เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขแบบหลายเงื่อนไข
เราสามารถใช้คำสั่ง if-else เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขแบบหลายเงื่อนไข ซึ่งใช้รูปแบบดังนี้:
if (เงื่อนไข 1) {
// ถ้าเงื่อนไข 1 เป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else if (เงื่อนไข 2) {
// ถ้าเงื่อนไข 1 เป็นเท็จและเงื่อนไข 2 เป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else {
// ถ้าทุกเงื่อนไขเป็นเท็จ ให้ทำงานในส่วนนี้
}
คำสั่ง if-else จะทำงานตามลำดับของเงื่อนไข หากเงื่อนไขแรกเป็นเท็จ โปรแกรมจะทำงานในส่วนของเงื่อนไขถัดไป และหากไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริง เงื่อนไขที่อยู่ในส่วน else จะถูกทำงาน
คำสั่ง if-else-if เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขและทำงานแบบหลากหลายทางเลือก
ในบางกรณี เราอาจต้องตรวจสอบเงื่อนไขและทำงานตามแบบหลายทางเลือก ในกรณีนี้ เราสามารถใช้คำสั่ง if-else-if ได้ โดยมีรูปแบบดังนี้:
if (เงื่อนไข 1) {
// ถ้าเงื่อนไข 1 เป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else if (เงื่อนไข 2) {
// ถ้าเงื่อนไข 1 เป็นเท็จและเงื่อนไข 2 เป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else if (เงื่อนไข 3) {
// ถ้าทุกเงื่อนไขแรกและสองเป็นเท็จและเงื่อนไข 3 เป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else {
// ถ้าทุกเงื่อนไขเป็นเท็จ ให้ทำงานในส่วนนี้
}
ที่แตกต่างจากคำสั่ง if-else คือ คำสั่ง if-else-if สามารถตรวจสอบและทำงานได้หลายเงื่อนไขที่ต่อเนื่องกัน และจะทำงานในส่วนที่ถูกตรวจสอบให้เป็นจริงครั้งแรกที่พบ และหากไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริง เงื่อนไขที่อยู่ในส่วน else จะถูกทำงาน
วิธีการใช้งานคำสั่ง if เพื่อตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูล
คำสั่ง if สามารถใช้เปรียบเทียบค่า ตัวแปร หรือสิ่งต่าง ๆ ในการตรวจสอบเงื่อนไขได้ ซึ่งสามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบเช่น == (เท่ากับ), != (ไม่เท่ากับ), > (มากกว่า), < (น้อยกว่า), >= (มากกว่าหรือเท่ากับ), <= (น้อยกว่าหรือเท่ากับ) เป็นต้น
เราสามารถใช้คำสั่ง if เพื่อตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูลได้ดังนี้:
if (ตัวแปร == ค่า) {
// ถ้าตัวแปรมีค่าเหมือนกับค่าที่กำหนด ให้ทำงานในส่วนนี้
}
การใช้งานคำสั่ง if แบบรวมเงื่อนไขและตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูล
หากต้องการรวมเงื่อนไขและตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูล สามารถใช้คำสั่ง if แบบรวม (compound if statement) ได้ โดยใช้ตัวดำเนินการทางตรรกะ เช่น && (และ), || (หรือ) เป็นต้น
รูปแบบของคำสั่ง if แบบรวมเงื่อนไขและตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูลจะเป็นดังนี้:
if (เงื่อนไขที่ต้องการรวม && ตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูล) {
// ถ้าทั้งเงื่อนไขหลักและการเปรียบเทียบข้อมูลเป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
}
หรือ
if (เงื่อนไขที่ต้องการรวม || ตรวจสอบการเปรียบเทียบข้อมูล) {
// ถ้าเงื่อนไขหลักหรือการเปรียบเทียบข้อมูลอย่างน้อยหนึ่งเงื่อนไขเป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
}
การใช้งานคำสั่ง if เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขและเปรียบเทียบค่า
ในบางกรณี เราอาจต้องตรวจสอบเงื่อนไขและเปรียบเทียบค่าที่เป็นไปได้หลากหลาย ในกรณีนี้ เราสามารถใช้คำสั่ง if เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขและเปรียบเทียบค่าได้ดังนี้:
if (เงื่อนไข) {
// ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง ให้ทำงานในส่วนนี้
} else if (ค่าที่ต้องการเปรียบเทียบ == ค่าที่เปรียบเทียบ) {
// ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จและค่าที่ต้องการเปรียบเทียบเท่ากับค่าที่เปรียบเทียบ ให้ทำงานในส่วนนี้
} else if (ค่าที่ต้องการเปรียบเทียบ >= ค่าที่เปรียบเทียบ) {
// ถ้าทั้งเงื่อนไขและการเปรียบเทียบเป็นเท็จและค่าที่ต้องการเปรียบเทียบมากกว่าหรือเท่ากับค่าที่เปรียบเทียบ ให้ทำงานในส่วนนี้
} else {
// ถ้าทุกเงื่อนไขเป็นเท็จ ให้ทำงานในส่วนนี้
}
ในตัวอย่างนี้ เราใช้เงื่อนไขเป็นเงื่อนไขหลักในการตรวจสอบ และเปรียบเทียบค่าแบบหลายรูปแบบ เมื่อเงื่อนไขหลักและเงื่อนไขการเปรียบเทียบเป็นเท็จ จะถูกตรวจสอบเงื่อนไขถัดไป และเมื่อไม่มีเงื่อนไขใดเป็นจริง เงื่อนไขที่อยู่ในส่วน else จะถูกทำงาน
การใช้งานคำสั่ง if เพื่อควบคุมการ
Ep4. คำสั่ง If สูตร If จัดการเงื่อนไขตามเงื่อนไข คำสั่ง If ประโยชน์คำสั่ง If Excel | สอน Excel
คำสำคัญที่ผู้ใช้ค้นหา: คำ สั่ง if คําสั่ง if excel, คําสั่ง if else, แบบฝึกหัด คำสั่ง if, ตัวอย่าง โจทย์ if-else, คําสั่ง if else if, สูตร if หลายเงื่อนไข, Else if คือ, If else if คือ
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คำ สั่ง if

หมวดหมู่: Top 89 คำ สั่ง If
If เป็นคำสั่งที่มีหน้าที่อะไร
IF หรือ “ถ้า” เป็นคำสั่งที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมเพื่อทำให้คอมพิวเตอร์สามารถตรวจสอบเงื่อนไขและทำงานตามที่กำหนดได้ ถ้าเงื่อนไขเป็นจริง (True) คำสั่งในส่วนของ IF จะถูกทำงาน แต่ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ (False) คำสั่งในส่วนต่อมาหลังจากรูปแบบ IF จะถูกข้ามไปโดยตรง
IF เป็นคำสั่งที่สำคัญอย่างยิ่งในการควบคุมการทำงานของโปรแกรม ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้ในหลากหลายกรณี เช่น เงื่อนไขที่ทำให้โปรแกรมทำงานตามที่เราต้องการ การทำงานเมื่อมีเงื่อนไขเป็นจริงหรือเท็จ โดยรูปแบบของ IF จะเป็นดังนี้:
IF (เงื่อนไข) THEN (คำสั่งที่ถูกทำงาน)
[ELSEIF (เงื่อนไขเพิ่มเติม) THEN (คำสั่งที่ถูกทำงาน)]
[ELSE (คำสั่งที่ถูกทำงาน)]
END IF
โครงสร้างของ IF ประกอบด้วยส่วนประกอบหลายส่วนที่สำคัญซึ่งผู้ใช้งานควรทราบเพื่อให้เข้าใจการทำงานของ IF ได้เป็นอย่างดี โดยส่วนประกอบที่สำคัญมีดังนี้:
1. เงื่อนไข: เงื่อนไขที่จะถูกตรวจสอบเพื่อกำหนดว่าคำสั่งภายใน IF จะถูกทำงานหรือไม่ เงื่อนไขนี้สามารถมีค่าเป็นจริง (True) หรือเท็จ (False) หลักการทำงานของ IF คือถ้าเงื่อนไขเป็นจริง คำสั่งที่ระบุภายใน IF จะถูกทำงานและรับค่า เท่านั้น
2. คำสั่งที่ถูกทำงาน: คำสั่งที่จะถูกดำเนินการเมื่อเงื่อนไขที่กำหนดอยู่ภายใน IF เป็นจริง คำสั่งนี้หากส่งผลให้โปรแกรมทำงานตามที่คำสั่งระบุมา
3. เงื่อนไขเพิ่มเติม: IF สามารถมีเงื่อนไขเพิ่มเติมได้หลายครั้งโดยใช้ ELSEIF ซึ่งใช้กำหนดเงื่อนไขอื่นที่จะถูกตรวจสอบหากเงื่อนไขที่ปรากฏในหัวข้อก่อนหน้านั้นเป็นเท็จ หาก ELSEIF มีเงื่อนไขที่หลายอย่างสามารถใช้ได้เป็นจำนวนมาก
4. คำสั่งที่ถูกทำงานประเภท ELSE: ELSE เป็นส่วนที่ไม่บังคับ ซึ่งระบุคำสั่งที่จะทำงานในกรณีที่เงื่อนไขใน IF และ ELSEIF ทุกประการเป็นเท็จ (False) ถือว่า ELSE เป็นส่วนที่เพิ่มความยืดหยุ่นในการเขียนโปรแกรม
FAQs:
1. เงื่อนไขที่ใช้ใน IF ต้องมีการดำเนินการใดบ้าง?
เงื่อนไขที่ใช้ใน IF สามารถใช้ตัวดำเนินการเปรียบเทียบ (comparison operators) เช่น = (เท่ากับ), <> (ไม่เท่ากับ), < (น้อยกว่า), > (มากกว่า), <= (น้อยกว่าหรือเท่ากับ), >= (มากกว่าหรือเท่ากับ) เป็นต้น เช่น IF x > 5 THEN คือถ้า x มากกว่า 5 คำสั่งที่ตามหลังจะถูกทำงาน
2. ELSEIF สามารถใช้ใน IF ได้หลายครั้งหรือไม่?
ใช่ คุณสามารถใช้ ELSEIF ได้หลายครั้งใน IF เพื่อกำหนดเงื่อนไขในลักษณะมากขึ้นถ้าสิ่งหนึ่งที่คุณต้องการไม่เป็นไปตามที่คุณคาดหวัง
3. คำสั่งที่อยู่ในส่วน ELSE จะถูกทำงานเมื่อไหร่?
คำสั่งที่ตั้งอยู่ในส่วน ELSE จะถูกทำงานเมื่อเงื่อนไขใน IF และ ELSEIF ทุกประการเป็นเท็จเท่านั้น คำสั่งใน ELSE สามารถใช้เพื่อประมวลผลเงื่อนไขที่ไม่สังเกตได้จากเงื่อนไขอื่น
4. IF สามารถใช้กับตัวแปรอื่นที่ไม่ใช่ค่าเป็นจริงหรือเท็จได้หรือไม่?
เงื่อนไขใน IF สามารถใช้กับตัวแปรอื่น ไม่ว่าจะเป็นตัวแปรที่บันทึกค่าเป็นตัวเลข, ตัวแปรที่บันทึกค่าเป็นข้อความ, หรือตัวแปรที่บันทึกค่าเป็นค่าจริง/เท็จ กล่าวคือ IF สามารถใช้กับตัวแปรใดๆ ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้
5. การใช้รูปแบบของ IF ที่ผิดอาจทำให้โปรแกรมไม่ทำงานได้หรือเกิดปัญหาอื่นได้หรือไม่?
ใช่ หากใช้รูปแบบของ IF ที่ไม่ถูกต้องหรือไม่สมบูรณ์อาจทำให้โปรแกรมไม่ทำงานตามที่ควร หรืออาจเกิดปัญหาในการรันโปรแกรม เพื่อป้องกันปัญหานี้ควรตรวจสอบรูปแบบของ IF ให้ถูกต้องและตรวจสอบการทำงานของโปรแกรมในทุกขั้นตอน
IF เป็นคำสั่งที่สำคัญและกระจ่างในการควบคุมการทำงานของโปรแกรม ความรู้เกี่ยวกับ IF จึงเป็นพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์หรือผู้ที่สนใจในการเขียนโปรแกรม โดย IF มีความยืดหยุ่นสูงในการเขียนโค้ดและใช้งานได้ในหลากหลายกรณีเพื่อให้โปรแกรมของคุณสามารถทำงานได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
คำสั่ง If, If…Else ใช้ต่างกันอย่างไร
คำสั่ง if และ if…else เป็นคำสั่งที่นำเข้ามาในการเขียนโปรแกรม เพื่อช่วยในการควบคุมการกระทำของโปรแกรมให้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด เมื่อในโปรแกรมมีเงื่อนไขหรือการตัดสินใจที่ต้องทำก่อนที่จะทำคำสั่งต่อไป คำสั่ง if หรือ if…else จะเข้ามาช่วยในการทำงานนี้
คำสั่ง if ใช้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่นำมาตรวจสอบเป็นจริง (True) เท่านั้น คำสั่งที่อยู่ภายใน if จะถูกทำงาน ในกรณีที่เงื่อนไขเป็นเท็จ (False) คำสั่งที่อยู่ภายใน if จะไม่ถูกทำงานและโปรแกรมจะข้ามไปทำคำสั่งต่อไป
เราสามารถเขียนโค้ดอย่างง่ายด้วยคำสั่ง if ได้ดังนี้:
“`python
x = 5
if x < 10: print("x is less than 10") ``` ในตัวอย่างด้านบน เมื่อเงื่อนไข x < 10 เป็นจริง คำสั่ง print("x is less than 10") จะถูกทำงาน และจะแสดงผลลัพธ์เป็น "x is less than 10" ออกทางหน้าจอ คำสั่ง if...else ใช้เมื่อเงื่อนไขที่นำมาตรวจสอบมีสองเงื่อนไข ซึ่งสามารถแบ่งเงื่อนไขออกเป็นสองกลุ่มที่ครอบคลุมกันได้ หากเงื่อนไขนั้นเป็นจริง (True) กลุ่มแรกของคำสั่งที่นำมาใส่ใน if จะถูกทำงาน แต่ถ้าเงื่อนไขนั้นเป็นเท็จ (False) กลุ่มที่สองของคำสั่งที่นำมาใส่ใน else จะถูกทำงานแทน ตัวอย่างของการใช้งานคำสั่ง if...else แสดงดังนี้: ```python x = 15 if x < 10: print("x is less than 10") else: print("x is greater than or equal to 10") ``` ในตัวอย่างข้างต้น เมื่อ x = 15 เงื่อนไขใน if เป็นเท็จ (False) ดังนั้น คำสั่ง print("x is less than 10") จะไม่ถูกทำงาน แต่กลุ่มคำสั่งใน else จะถูกทำงานแทน และจะแสดงผลลัพธ์เป็น "x is greater than or equal to 10" ออกทางหน้าจอ ปัจจุบันคำสั่ง if และ if...else ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในการเขียนโปรแกรมในหลายภาษาโปรแกรมมิ่ง ไม่ว่าจะเป็นภาษา Python, C++, Java, หรือภาษาโปรแกรมอื่น ๆ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำสั่ง if และ if...else: 1. คำสั่ง if และ if...else เหมือนกันหรือไม่? - ไม่เหมือนกัน คำสั่ง if ใช้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงเท่านั้น แต่ if...else ใช้เมื่อมีสองเงื่อนไขแบ่งออกเป็นสองกลุ่มที่ครอบคลุมกัน เมื่อเงื่อนไขใน if เป็นเท็จ กลุ่มคำสั่งที่อยู่ใน else จะถูกทำงานแทน 2. สามารถใช้ if...else หลายรอบได้หรือไม่? - ใช่ สามารถใช้ if...else หลายๆ รอบได้ คำสั่งใน if หรือ else สามารถมีคำสั่งอื่น ๆ อยู่ภายในได้ 3. สามารถใช้ if โดยไม่มีส่วนของ else ได้หรือไม่? - ใช่ สามารถใช้คำสั่ง if โดยไม่มีส่วนของ else ได้ ในกรณีที่ไม่มี else ในคำสั่ง if และเมื่อเงื่อนไขใน if เป็นเท็จ โปรแกรมจะข้ามทำคำสั่งภายใน if และทำงานต่อไป 4. อะไรคือฟังก์ชันของคำสั่ง if และ if...else? - ฟังก์ชันของคำสั่ง if และ if...else คือการช่วยให้โปรแกรมสามารถตรวจสอบเงื่อนไขหรือการตัดสินใจได้ และควบคุมการทำงานของโปรแกรมตามเงื่อนไขที่กำหนด 5. มีวิธีการเขียนคำสั่ง if และ if...else ในภาษาโปรแกรมอื่น ๆ อย่างไร? - ในภาษาโปรแกรมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ Python ก็สามารถเขียนคำสั่ง if และ if...else ได้ แต่ขึ้นอยู่กับสัญลักษณ์และคำสั่งที่ใช้ในภาษานั้น ในสรุป คำสั่ง if และ if...else เป็นคำสั่งที่ใช้ในการควบคุมการกระทำของโปรแกรมในที่เงื่อนไขมีการตัดสินใจ โดย if ใช้ก็ต่อเมื่อเงื่อนไขที่นำมาตรวจสอบเป็นจริงเท่านั้น ส่วน if...else ใช้เมื่อมีสองเงื่อนไขแบ่งออกเป็นสองกลุ่มที่ครอบคลุมกัน ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ กลุ่มที่สองของคำสั่งที่อยู่ใน else จะถูกทำงานแทน คำสั่ง if และ if...else มีความสำคัญในการเขียนโปรแกรม เนื่องจากช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานตามเงื่อนไขที่กำหนดได้อย่างถูกต้อง และช่วยให้โปรแกรมยืดหยุ่นขึ้นกว่าการทำงานแบบเชื่อมต่อติดต่อกัน FAQs (คำถามที่พบบ่อย): 1. การใช้คำสั่ง if ในภาษา Python ยังมีคำสั่งอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอีกไหม? - ใช่ ในภาษา Python ยังมีคำสั่ง elif ที่เป็นคำสั่งที่ใช้เมื่อต้องตรวจสอบเงื่อนไขมากกว่าหนึ่งเงื่อนไข และคำสั่ง nested if ที่เป็นการใช้ if ภายใน if เพื่อตรวจสอบเงื่อนไขเพิ่มเติม 2. คำสั่ง if สามารถมีการตรวจสอบภายในเงื่อนไขอื่น ๆ ได้หรือไม่? - ใช่ คำสั่ง if สามารถมีการตรวจสอบภายในเงื่อนไขอื่น ๆ ได้ เรียกว่า nested if ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบในเงื่อนไขภายในแล้วมีผลลัพธ์ที่เป็นเท็จ โปรแกรมจะข้ามทำงานในเงื่อนไขนั้นและทำงานในเงื่อนไขต่อไป 3. สามารถใช้ตัวเชื่อมต่อตรรกะ (logical operators) ร่วมกับคำสั่ง if ได้หรือไม่? - ใช่ สามารถใช้ตัวเชื่อมต่อตรรกะเช่น and, or, not ร่วมกับคำสั่ง if ได้ เพื่อให้เพิ่มความซับซ้อนในการตรวจสอบเงื่อนไข และรอบความตรงเป็นจริงของเงื่อนไข 4. คำสั่ง if และ if...else ใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง? - คำสั่ง if และ if...else ใช้ในการตรวจสอบเงื่อนไขและปรับเปลี่ยนการทำงานของโปรแกรมตามเงื่อนไขที่กำหนด สามารถใช้ได้ในหลายสถานการณ์ เช่น การตรวจสอบการเข้าระบบของผู้ใช้, การตรวจสอบค่าที่นำเข้ามาในโปรแกรม, การคำนวณผลลัพธ์ตามเงื่อนไขที่กำหนด และอื่น ๆ คำสั่ง if และ if...else เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการเขียนโปรแกรม ช่วยให้โปรแกรมสามารถทำงานในสถานการณ์ที่ต้องทำการตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและยืดหยุ่น โดยสามารถใช้งานร่วมกับตัวเชื่อมต่อตรรกะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความซับซ้อนในการตรวจสอบเงื่อนไข
ดูเพิ่มเติมที่นี่: themtraicay.com
คําสั่ง If Excel
Microsoft Excel เป็นโปรแกรมที่มีความสามารถที่หลากหลายและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก เครื่องมือนี้มีคำสั่งที่ชื่อว่า “IF” ซึ่งเป็นคำสั่งที่มีความสำคัญ โดยมีไวยากรณ์การใช้ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด ให้เกิดการดำเนินการหรือแสดงผลที่ต้องการ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับคำสั่ง “IF” ใน Excel ภาษาไทย วิธีการใช้และคำถามที่พบบ่อย ซึ่งจะช่วยให้คุณนำความรู้มาใช้ในงานทั้งในที่ทำงานและชีวิตประจำวัน
## คำสั่ง “IF” คืออะไรและทำงานอย่างไร?
คำสั่ง “IF” ใน Excel เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดสถานการณ์ที่ต้องการตรวจสอบเงื่อนไขในเซลล์โดยอัตโนมัติ และวางตำแหน่งดำเนินการต่างๆ ตามผลการตรวจสอบเงื่อนไขนั้นๆ
ไวยากรณ์ในการใช้งานคำสั่ง “IF” มีดังนี้:
“`
=IF(เงื่อนไข, รายการการดำเนินการถ้าเงื่อนไขเป็นจริง, รายการการดำเนินการถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ)
“`
เงื่อนไข: เงื่อนไขที่คุณต้องการให้ Excel ตรวจสอบ เช่น A1>10 หรือ B2=”สวัสดี”
รายการการดำเนินการถ้าเงื่อนไขเป็นจริง: ผลลัพธ์ที่คุณต้องการให้แสดงหากเงื่อนไขเป็นจริง เช่น “ผ่าน”
รายการการดำเนินการถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ: ผลลัพธ์ที่คุณต้องการให้แสดงหากเงื่อนไขเป็นเท็จ เช่น “ไม่ผ่าน”
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง “IF” ใน Excel:
“`
=IF(A1>10, “ผ่าน”, “ไม่ผ่าน”)
“`
ในตัวอย่างข้างต้น ถ้าค่าในเซลล์ A1 มีค่ามากกว่า 10 คำสั่ง “IF” จะแสดง “ผ่าน” แต่ถ้าค่าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 จะแสดง “ไม่ผ่าน”
## คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำสั่ง “IF” ใน Excel
### 1. สามารถใช้คำสั่ง “IF” กับหลายเงื่อนไขได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถใช้สูตรส่วนตัวซ้อนกันได้ เพื่อตรวจสอบหลายเงื่อนไขโดยใช้คำสั่ง “IF” แบบซ้อนทับ (nested) เช่น:
“`
=IF(A1>10, “ผ่าน”, IF(A1=10, “เกือบผ่าน”, “ไม่ผ่าน”))
“`
### 2. คำสั่ง “IF” สามารถใช้งานกับข้อเงื่อนไขที่เป็นข้อความหรือไม่?
ใช่, คำสั่ง “IF” สามารถใช้กับข้อเงื่อนไขที่เป็นข้อความได้ โดยเขียนเงื่อนไขให้อยู่ในเครื่องหมาย “” เช่น:
“`
=IF(B2=”สวัสดี”, “คุณสวัสดี”, “คุณไม่สวัสดี”)
“`
### 3. สามารถใช้คำสั่ง “IF” เพื่อตรวจสอบการเป็นค่าว่างได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถใช้คำสั่ง “IF” เพื่อตรวจสอบว่าเซลล์ว่างหรือไม่ โดยใช้เครื่องหมาย “=” เช่น:
“`
=IF(A1=””, “เป็นค่าว่าง”, “ไม่เป็นค่าว่าง”)
“`
### 4. สามารถใช้คำสั่ง “IF” ในการดำเนินการทางคณิตศาสตร์ได้หรือไม่?
ใช่, คุณสามารถใช้คำสั่ง “IF” เพื่อดำเนินการทางคณิตศาสตร์ได้ เช่น:
“`
=IF(A1>10, A1*2, A1/2)
“`
ในตัวอย่างข้างต้น ถ้าค่าในเซลล์ A1 มากกว่า 10 คำสั่ง “IF” จะคูณ A1 ด้วย 2 แต่ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 จะหาร A1 ด้วย 2
### 5. สามารถเชื่อมคำสั่ง “IF” กับคำสั่งอื่นๆ ใน Excel ได้หรือไม่?
ใช่, คำสั่ง “IF” สามารถเชื่อมต่อกับคำสั่งอื่นๆ ใน Excel เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น ทำให้คุณสามารถสร้างสูตรที่ซับซ้อนได้ เช่น:
“`
=IF(SUM(A1:A3)>10, “ผ่าน”, “ไม่ผ่าน”)
“`
ในตัวอย่างข้างต้น ถ้าผลรวมของค่าในช่วง A1:A3 มากกว่า 10 คำสั่ง “IF” จะแสดง “ผ่าน” แต่ถ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 จะแสดง “ไม่ผ่าน”
คำสั่ง “IF” เป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญใน Microsoft Excel ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเงื่อนไขในข้อมูลและดำเนินการตามที่ต้องการ และก็มีคำถามที่พบบ่อยที่ผู้ใช้ต้องการคำแนะนำ ในการใช้งานคำสั่งนี้ ความรู้เกี่ยวกับการใช้คำสั่ง “IF” จะช่วยให้คุณใช้ Excel ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อประมวลผลข้อมูลและเข้าใจข้อมูลได้ง่ายขึ้น
คําสั่ง If Else
คำสั่ง if else มีโครงสร้างการทำงานดังนี้:
if (เงื่อนไข) {
// บล็อกของคำสั่งที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นจริง
} else {
// บล็อกของคำสั่งที่จะทำเมื่อเงื่อนไขเป็นเท็จ
}
เงื่อนไขที่ใช้ในคำสั่ง if else สามารถเป็นเงื่อนไขได้หลากหลายรูปแบบ เช่น เปรียบเทียบค่า, เช็คว่าค่าตัวแปรมีค่าหรือไม่มีค่า, เช็คขนาดของตัวแปร ฯลฯ หากเงื่อนไขเป็นจริง (True) โปรแกรมจะทำคำสั่งในบล็อกเงื่อนไข if ที่ตามมา ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ (False) โปรแกรมจะทำคำสั่งในบล็อกเงื่อนไข else หรือข้ามบล็อกเงื่อนไข else ไปโดยตรง
ตัวอย่างการใช้คำสั่ง if else ในภาษา Python:
age = 20
if age >= 18:
print(“คุณเป็นผู้ใหญ่”)
else:
print(“คุณเป็นเด็ก”)
ในตัวอย่างนี้ เรากำหนดตัวแปร age เท่ากับ 20 และใช้คำสั่ง if เพื่อตรวจสอบว่าค่าของตัวแปร age มากกว่าหรือเท่ากับ 18 หากเงื่อนไขเป็นจริง โปรแกรมจะพิมพ์ “คุณเป็นผู้ใหญ่” ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จ โปรแกรมจะพิมพ์ “คุณเป็นเด็ก”
คำสั่ง if else ยังสามารถมีเงื่อนไขเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมหลังคำสั่ง if ด้วยคำสั่ง elif (ชื่อเต็ม: else if) เมื่อมีเงื่อนไขหลายเงื่อนไขใช้คำสั่งนี้:
if (เงื่อนไข1) {
// บล็อกของคำสั่งที่จะทำเมื่อเงื่อนไข1เป็นจริง
} elif (เงื่อนไข2) {
// บล็อกของคำสั่งที่จะทำเมื่อเงื่อนไข2เป็นจริง
} else {
// บล็อกของคำสั่งที่จะทำเมื่อเงื่อนไข1และเงื่อนไข2เป็นเท็จ
}
คำสั่ง if else มีความสำคัญในการเขียนโปรแกรมเนื่องจากอาจทำให้โปรแกรมสามารถปรับปรุงสมรรถนะและสิ่งที่โปรแกรมต้องการทำได้ให้ตรงตามเงื่อนไขที่กำหนด ส่วนคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคำสั่ง if else คือ:
คำถาม 1: คำสั่ง if else มีวิธีใช้งานอย่างไร?
ตอบ: ในการใช้งานคำสั่ง if else อาจต้องกำหนดเงื่อนไขและคำสั่งที่ต้องการดำเนินการเมื่อเงื่อนไขเป็นจริงและเงื่อนไขเป็นเท็จ ควรเขียนโค้ดในลักษณะที่มีความเป็นระเบียบและอ่านง่าย เพื่อให้โปรแกรมมีความเข้าใจง่ายและให้ผลลัพธ์ตรงกับที่คาดหวัง
คำถาม 2: ต้องใช้คำสั่ง if else หรือคำสั่งอื่นๆ ในการตรวจสอบเงื่อนไขในภาษาไทยไหม?
ตอบ: ในภาษาไทยอาจจะไม่มีคำสั่ง if else แต่สามารถใช้เงื่อนไขอื่นๆ เช่น คำสั่งถ้า…แล้ว… คำสั่งถ้า…ถ้า…แล้ว… หรือคำสั่งถ้ายังใช่…แล้ว… เป็นต้น ในกรณีนี้ คำสั่งถ้า…แล้ว… อาจสอดคล้องกับคำสั่ง if else หรือคำสั่ง elif ในภาษาอื่น
คำถาม 3: คำสั่ง if else สามารถใช้กับตัวแปรชนิดใดได้บ้าง?
ตอบ: คำสั่ง if else สามารถใช้กับตัวแปรชนิดต่างๆ ได้ เช่น ตัวแปรชนิดเลขจำนวนเต็ม (integer), เลขทศนิยม (float), ประโยคชนิดข้อความ (string), หรือตัวแปรชนิดบูลีน (boolean)
คำถาม 4: สามารถใช้คำสั่ง if else มากกว่าหนึ่งครั้งในโปรแกรมได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่ได้ เราสามารถใช้คำสั่ง if else มากกว่าหนึ่งครั้งในโปรแกรมได้ โดยกำหนดเงื่อนไขและคำสั่งการทำงานตามต้องการในแต่ละคำสั่ง if else เพื่อปรับปรุงโค้ดให้ตรงกับเงื่อนไขที่ต้องการ
คำถาม 5: คำสั่ง if else สามารถใช้งานร่วมกับคำสั่งวนซ้ำ (Loop) ได้หรือไม่?
ตอบ: ใช่ได้ คำสั่ง if else สามารถใช้งานร่วมกับคำสั่งวนซ้ำ เช่น คำสั่ง while, for loop เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานของโปรแกรม โดยการทำงานซ้ำนั้นอาจต้องการทำงานตามเงื่อนไขในคำสั่ง if else
ในสรุป คำสั่ง if else เป็นเครื่องมือสำคัญในการเขียนโปรแกรมเพื่อทำความเข้าใจและปรับปรุงสมรรถนะของโปรแกรมตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ การใช้คำสั่ง if else ให้ถูกต้องและสอดคล้องกับโครงสร้างของภาษาโปรแกรมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้โปรแกรมทำงานอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ
พบ 11 ภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ คำ สั่ง if.
























![ภาษาซี] คําสั่งเงื่อนไข (Condition Statement) - thiti.dev ภาษาซี] คําสั่งเงื่อนไข (Condition Statement) - Thiti.Dev](https://thiti.dev/uploads/2016/07/if-else.jpg)
























![ไม่อยากใช้ IF ซ้อนกันเยอะๆ ทำไงดี? ep2 [Alternatives of Nested IF in Excel] – วิศวกรรีพอร์ต ไม่อยากใช้ If ซ้อนกันเยอะๆ ทำไงดี? Ep2 [Alternatives Of Nested If In Excel] – วิศวกรรีพอร์ต](https://i0.wp.com/reportingengineer.com/wp-content/uploads/2019/11/if_long.jpg?resize=678%2C506&ssl=1)
ลิงค์บทความ: คำ สั่ง if.
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์หัวข้อนี้ คำ สั่ง if.
- หน่วยที่ 7 การตรวจสอบเงื่อนไข และเลือกการทางานของโปรแกรม
- การใช้งานคำสั่ง if else ในภาษา C – MarcusCode
- if(เงื่อนไข){ คําสั่งเมื่อเงื่อนไขเป นจริง } == เท !
- IF (ฟังก์ชัน IF) – ฝ่ายสนับสนุนของ Microsoft
- หน่วยที่ 7 การตรวจสอบเงื่อนไข และเลือกการทางานของโปรแกรม
- หน่วยที่ 7 การตรวจสอบเงื่อนไข และเลือกการทางานของโปรแกรม
- การใช้งานคำสั่ง if else ในภาษา C – MarcusCode
- คำสั่งควบคุมเงื่อนไข – การเขียนโปรแกรมภาษาซี (C-Programs)
- คำสั่ง if และ if-else – บทเรียนออนไลน์การเขียนโปรแกรมภาษา C
- คำสั่งควบคุม – Thanakrit Online – โรงเรียนร้อยเอ็ดวิทยาลัย
- 3.1 คำสั่งเลือกทำ (if statement) – การเขียนโปรแกรมภาษาไพธอน
ดูเพิ่มเติม: themtraicay.com/category/facts-first